เอซี มิลาน ที่มีโอกาสลุ้นทำประตูตลอดทั้งเกม 25 ครั้ง แต่ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่มาเน้นตั้งรับ ทำให้จบเกมเสมอกันไป 0-0 นัดแรกศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดแรก ประจำวันอังคารที่ 19 พฤษภาคม 2023 ที่สนาม ซาน ซิโร่ เป็นการเจอกัน ระหว่าง เอซี มิลาน สโมสรจากอิตาลี และ อดีตแชมป์ยุโรป 8 สมัย เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมจากอังกฤษ ที่เข้ามาเล่นรายการนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี พร้อมกับส่ง ซานโดร โตนาลี่ ลงเป็นตัวจริงพบกับต้นสังกัดเก่า
ครึ่งแรก เกม 45 นาที โอกาสเป็นของทีมเจ้าถิ่นที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ทีมเยือนหวังทำประตูขึ้นนำให้ได้ โดยที่พวกเขามีโอกาสส่องสกอร์ถึง 15 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียง 6 ครั้ง และ ส่วนใหญ่เป็นการเซฟของ นิค โป๊ป นายทวาร สาลิกาดง ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างเหนียวหนึบ ขณะที่โอกาสใกล้เคียงของ ปีศาจแดงดำ เกิดขึ้นในนาทีที่ 34 ตอมมาโซ่ โปเบก้า ที่ซัดบอลไปโดน จาค็อบ เมอร์ฟี่ สกัดได้บนเส้นพอดี ทำให้ เดอะ แม็กพายส์ ซึ่งมีลุ้นเพียงแค่ 2 ครั้ง แต่ไม่ตรงกรอบ ยังคงยื้อสกอร์ 0-0 เอาไว้ได้จนถึงช่วงพักครึ่ง
ครึ่งหลัง เกมอีก 45 นาที รูปเกมยังเป็น มิลาน ที่ครองเกมได้เหนือกว่า แต่โอกาสยิงน้อยกว่าครึ่งแรก มีลุ้น 10 ครั้ง เข้ากรอบเพียงแค่ 2 หน ส่วน ทูน อาร์มี่ เริ่มดีขึ้น มีลุ้นส่องสกอร์ 4 ครั้ง เข้ากรอบ 1 หน ซึ่งเป็นช่วงท้ายของเกมที่ ฌอน ลองสตาฟฟ์ ได้ยิงหน้าเขตโทษเกือบจะมุดใต้คานอยู่แล้ว แต่ มาร์โก สปอร์ติเอลโล่ ที่ลงมาแทน ไมค์ เมนญ็อง ที่บาดเจ็บปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด สุดท้ายทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน เอซี มิลาน เปิดบ้านเสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-0 แบ่งกันไปทีมละคะแนนในนัดแรก ยูซีแอล
ผู้เล่นตัวจริง เอซี มิลาน (ระบบการเล่น 4-3-3): ไมค์ เมนญ็อง (ผู้รักษาประตู) - ดาวิเด้ คาลาเบรีย (กัปตันทีม), มาลิค เทียว, ฟิคาโย่ โทโมรี่, เตโอ แอร์กน็องเดซ - รูเบน ลอฟตัส-ชีค, ราเด้ ครูนิช, ทอมมาโซ่ โปเบก้า - ซามูเอล ขุควูเอเซ่, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, ราฟาเอล เลเอา
ผู้เล่นตัวจริง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (ระบบการเล่น 4-3-3) : นิค โป๊ป (ผู้รักษาประตู) - คีแรน ทริปเปียร์ (กัปตันทีม), ฟาเบียน แชร์, สเวน บ็อตแมน, แดน เบิร์น - ฌอน ลองสตาฟฟ์, ซานโดร โตนาลี่, บรูโน่ กิมาไรส์ - จาค็อบ เมอร์ฟี่, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, แอนโธนี่ กอร์ดอน
แสดงความคิดเห็น