เมื่อมวยเต้นไม่ยอมต่อยในยก 5 ยกสุดท้าย กลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก ถึงขนาดต้องระดมความคิดแก้ไขด่วน "บิ๊กชุ้น" ชี้เริ่มต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย

เมื่อวันพุธที่ 22 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกีฬามวย ครั้งที่ 2/2566 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยเนื้อหาใจความที่น่าสนใจนั่นก็คือการหารือ เพื่อหาทางออกกรณีที่มวยไทยยุคปัจจุบันไม่ยอมชกกันในยกสุดท้าย โดยงานนี้มีการร่วมประชุมกันหลายฝ่ายทั้งรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คณะการกีฬาแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการกีฬามวย รวมไปถึงบอร์ดมวย

โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้กล่าวถึงมวยไทยยุคปัจจุบันว่า “เท่าที่ผ่านมาระยะ 5 ปีหลังนี้มวยชกไม่ค่อยสนุก ทำให้ชาวต่างชาติและแฟนมวยชาวไทยเบื่อและเกิดข้อสงสัย ยิ่งชาวต่างชาติบางครั้งเกิดความงุนงงว่าทำไมยกสุดท้ายนักมวยจะถอยออกมาเต้นฟุตเวิร์คโดยที่ไม่ออกอาวุธกัน ทั้งๆ ที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ให้สามารถพลิกเกมส์ได้ และกลายเป็นประเด็นหลักที่ทำให้มวยไทย 5 ยกถูกลดความสนใจลงไปเน้นออกอาวุธกันแค่ยก 3-4 เท่านั้น ดังนั้นผมเองจึงอยากจะเสนอความคิดส่วนตัวที่ว่าให้มีการปรับกติกามาเป็นมวยไทย 3 ยกไปเลยและยังมีกติกาคะแนนเสมอกันต่อยกตัดสินหรือกระทั่งชกไม่สนุกหาผู้ชนะไม่ได้ก็ต่ออีกยกเพื่อความชัดเจนไปเลยมีการประกาศคะแนนทุกยกโชว์ให้เห็นกันแบบแฟร์ๆกันไป” โดยความคิดเห็นส่วนตัวดังกล่าวก็มีผู้ร่วมประชุมเห็นด้วยพอสมควรกับแนวคิดนี้

ในขณะ “โปรโมเตอร์ชุ้น เกียรติเพชร” โปรโมเตอร์ศึกมวยไทยเกียรติเพชรที่เข้าร่วมประชุมเป็น 1 ในบอร์ดมวย ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า “เรื่องนี้จริงๆ ทางเราและสำนักงานกีฬามวยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเลยนะครับ ทางเรามีการปฎิบัติแก้ไขไปแล้วแต่ยังไม่เป็นผลเต็มระบบเท่านั้น เช่นการอบรมก่อนชกย้ำว่าให้ชกกันจนกว่าเสียงระฆังจะดังขึ้น โดยถ้าไม่ชกกันจะมีการเตือนก่อน 2 ครั้ง ถ้ายังไม่ชกกันอีกก็จะเรียกมาอีก 1 ครั้ง ทว่าจะเป็นการเชิญทั้งคู่ลงจากเวที โดยถ้ามาถึงขั้นตอนสุดท้ายนี้จะเข้าสู่ขั้นตัดค่าตัวนักมวย 20% ส่วนการเปิดเผยคะแนนนั้นศึกรวมพลคนสมุย ก็ยึดปฎิบัติและทำมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการแก้ปัญหาจะต้องร่วมมือกันจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น นักมวย, กรรมการ, หัวหน้าคณะ, แฟนมวย, สื่อมวลชล และโปรโมเตอร์ จะต้องมาร่วมมือกันหารือ เพื่อหาแนวทางปฎิบัติที่เป็นแนวทางเดียวกัน ในการแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ เพื่ออนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยกีฬาประจำชาติของเราต่อไปให้ได้นานๆ”

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้กำชับถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งรัดให้มาระดมความคิดเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้ได้เร็วที่สุด โดยจะมีการประชุมอัพเดทเป็นระยะ เพื่อเป้าหมายการยกระดับมวยไทยสู่สากล และเรียกความน่าสนใจจากแฟนมวยกลับมาให้ได้