มีการเปิดเผยออกมาว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยเซ็นสัญญากับนักเตะรายนึงที่สามารถกลายเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกได้อย่างสบายๆ แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่แคร์สิ่งใดเลย

         เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าการตัดสินใจเซ็นสัญญากับ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2007 เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดในเส้นทางการทำงานที่กลายเป็นตำนานของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กองกลางทีมชาติอังกฤษเข้ามาหลังจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฟุตบอลโลกเมื่อ 12 เดือนก่อนหน้านั้น รวมไปถึงผลงานในช่วงเวลาที่อยู่กับบาเยิร์น มิวนิค แต่ปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังทำให้เขาไม่เคยสถาปนาตัวเองในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้อย่างแท้จริง

         แต่มีความเสียใจที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับผู้เล่นที่เซ็นสัญญาในสัปดาห์เดียวกัน อันแดร์สันก้าวเข้ามาค้าแข้งในอังกฤษโดยพะยี่ห้อ 'นักเตะพรสวรรค์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด' คนหนึ่งของบราซิลพ่วงมาด้วย สองปีก่อนหน้านั้น มิดฟิลด์ตัวกลางรายนี้ได้รับตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ในฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาก็ได้มีส่วนร่วมกับทีมบราซิลชุดใหญ่แล้ว และได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นส่วนสำคัญในแผนการก้าวไปข้างหน้าของทัพเซเลเซา

         แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มเงิน 27 ล้านปอนด์เพื่อเซ็นสัญญากับอันแดร์สันจากเอฟซี ปอร์โต้ โดยสามารถเอาชนะเรอัล มาดริดและเชลซีที่สนใจอยู่เช่นกัน แต่แม้จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก 4 สมัยและแชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย แต่เขาก็ไม่เคยทำได้อย่างที่หลายๆ คนคาดหวัง และเมื่ออาชีพค้าแข้งของเขาจบลงก่อนเวลาอันควรด้วยวัยเพียงแค่ 31 ปี มันเลยเกิดคำถามสำคัญขึ้นว่าเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นกับแมนฯ ยูไนเต็ดโดยรวมหรือตัวกุนซือหรือเปล่า ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว เฟอร์กูสันไม่ได้ผิดพลาดมากนักในตลาดซื้อขายนักเตะ และคนในสโมสรก็คิดว่าเขาน่าจะทำถูกต้องแล้วสำหรับแอนเดอร์สันหากทัศนคติของเขาถูกต้อง

         “เขาสามารถเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกได้ ณ จุดหนึ่ง ผมให้คำมั่นเลยว่าเขาจะทำได้” เบน ฟอสเตอร์ อดีตผู้รักษาประตูของแมนฯ ยูไนเต็ด กล่าวกับ UTD Podcast เมื่อปีที่แล้ว "ทุกคนจะบอกว่าเขาสามารถเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกได้เมื่อถึงจุดหนึ่ง" “แต่เขาแค่ไม่สนใจ เขาไม่แคร์อะไรเลย พูดตามตรง เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย [หัวเราะ] แต่คุณส่งเขาลงสนามและเขาก็เป็นแบบนั้น คาร์ลอส เตเบซ ก็แบบเดียวกับ อะไรนะ ส่งเขาลงสนาม โอ้พระเจ้า ต้องมีบางอย่างในการเป็นชาวอเมริกาใต้ ต้องมีบางอย่างอยู่ในนั้น"

         ความเชื่อดังกล่าวยังกระจายไปยังสต๊าฟฟ์โค้ช โดยมิค เคล็กก์ คนสนิทที่เฟอร์กูสันไว้ใจได้ยอมรับว่าความโกรธที่มีต่อนักเตะพรสวรรค์ชาวอเมริกาใต้นั้นเจ้านายของเขารู้สึกได้ด้วยตัวเขาเอง “อันแดร์สันมีหนึ่งเดียว คุณไม่มีทางหาคนที่ดีกว่านี้อีกแล้ว เขาเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน แต่เขาเป็นคนขี้เกียจ” เคล็กก์ กล่าวกับแอธเลติก “เขามีข้อแก้ตัวเสมอ ผมเคยมีไม้เท้าอันนึง และผมบอกกับอเล็กซ์ เฟอร์กูสันตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า ถ้าเขายังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมจะตีเขาด้วยไม้เท้าเปื้อนเลือดของผม" "เฟอร์กี้แทบไม่อยากเชื่อ 'อย่านะเว้ย เขาทำให้ฉันเสียเงินตั้งเยอะ นายจะตีนักเตะของฉันไม่ได้นะ นายจะบ้าเหรอ?'" "จากนั้น 6 สัปดาห์ต่อมา เฟอร์กี้ก็มาหาผม 'ไม้เปื้อนเลือดนั่นอยู่ที่ไหน? เอาไม้นั่นมาให้ฉัน ฉันอยากตีเขา'”

         เคล็กก์ กล่าวเสริมว่า อันแดร์สัน อาจเป็น "ตัวอย่างที่ดีของผู้เล่น" แต่แทนที่จะประพฤติตัวอย่างเหมาะสม เขากลายเป็นนักเตะที่ชอบปาร์ตี้ ที่สุดแล้วเขาก็ย้ายออกจากแมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2015 หลังจากลงเล่นเกือบ 200 ครั้งให้กับสโมสร จากนั้นเขาใช้เวลาช่วงสั้นๆ ในบราซิล ก่อนจะกลับไปยุโรปเพื่อเล่นในตุรกี อย่างไรก็ตาม การผจญภัยนั้นเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เช่นกัน เขาแขวนสตั๊ดในเดือนกันยายน 2020 ปิดฉาก "ดาวโรจน์" จากแซมบ้ากลายเป็น "ดาวโรย" ที่ผู้คนจดจำในฐานะที่ไร้วินัยคนนึง