คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด ออกโรงตำหนิลูกทีมรายนึงอย่างรุนแรงต่อหน้าสาธารณะระหว่างเกมโกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

         นี่คือช่วงเวลาที่ โรดรีโก้ ปีกทีมเรอัล มาดริด โดนตำหนิอย่างรุนแรงต่อหน้าสาธารณะจากคาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมของเขา หลังจากที่โดนเปลี่ยนตัวออกในเกมโกปา เดล เรย์ กับบียาร์เรอัล เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยดาวเตะชาวบราซิลมูลค่า 40 ล้านปอนด์ถูกแทนที่โดยดานี่ เซบายอส หลังจากเวลาผ่านไป 56 นาที ซึ่งดาวเตะชาวสเปนก็มีบทบาทสำคัญในการคัมแบ็คในครึ่งหลังของทัพราชันชุดขาว

         ตอนที่อันเชล็อตติถอดโรดรีโก้ออกนั้น มาดริดที่ดูขาดความกระฉับกระเฉงเป็นฝ่ายตามหลังบียาร์เรอัล 2-0 ในเกมโกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งที่สุดแล้วพวกเขาก็เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-2 จากวิดีโอจะเห็นว่าอันเชล็อตติที่อารมณ์กำลังเดือดดาลเข้าไปหาโรดรีโก้ที่อยู่บนม้านั่งสำรองของมาดริด กระดิกนิ้วไปที่เขาและดูเหมือนจะพูดว่า 'Tu a mi, me saludas' ซึ่งแปลว่า 'นาย! นายต้องยอมฉัน'

         นักเตะชาวบราซิลเดินดุ่มๆ ออกมาจากสนาม ปฏิเสธการจับมือจากผู้จัดการทีมก่อนจะนั่งลงบนม้านั่งสำรอง หลังจบเกม อันเชล็อตติพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวโดยอธิบายว่า "ผมบอกเขาว่าอย่าลืมยื่นมือให้ผมเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวออก ผมคิดว่าเขาคงลืมอ่ะ" ทั้งนี้เพียงหนึ่งนาทีหลังจากเซบายอสลงมาแทนโรดรีโก้ เขาก็ช่วยแอสซิสต์ให้วินิซิอุส จูเนียร์ ทำประตูตีตื้นให้ทัพราชันชุดขาวไล่มาเป็น 2-1 

         จากนั้นเรอัล มาดริด ก็มาได้ประตูไตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่คาริม เบนเซม่า โหม่งติดผู้รักษาประตู ก่อนที่ เอแดร์ มิลิเตา จะยิงซ้ำเข้าไปในระยะเผาขน สุดท้ายเป็นทัพราชันชุดขาวกลับมาเป็นฝ่ายนำอย่างเหลือเชื่อ 3-2 จากจังหวะที่เซบายอส รับบอลจากเพื่อนมาทางกราบขวาก่อนที่เจ้าตัวจะยิงหนีมือผู้รักษาประตูอย่างสวยงาม โดยอันเชล็อตติกล่าวว่าเขารู้สึกยินดีกับชัยชนะ "เราเล่นได้ไม่ดีนักในครึ่งแรก แต่ทีมแสดงให้เห็นคาแรกเตอร์ที่ยอดเยี่ยมในครึ่งหลัง เราต่อสู้เพื่อทุกสิ่งและเปลี่ยนเรื่องราวของเกม"

         ชัยชนะดังกล่าวจะลดความกดดันของอันเชล็อตติ และส่งแชมป์ลา ลีก้า สเปน เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศที่พวกเขาจะพบกับคู่แข่งอย่างแอตเลติโก้ มาดริด ส่วนผลอีกคู่ บาร์เซโลน่า บุกไปเอาชนะ เอดี เซวตา 5-0 โดย บาร์ซา ได้ประตูจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำ 2 ประตู นาทีที่ 50 กับ 90, ราฟินญ่า นาทีที่ 41, อันซู ฟาติ นาทีที่ 70 และ ฟรองค์ เคสซี นาทีที่ 77 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมเช่นกัน