ได้มีการออกมาเปิดเผยถึงตัวเลขเงินรางวัลสำหรับการแข่งขันฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจบลงด้วยการดวลจุดโทษและลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปครอง
ลิเวอร์พูล สามารถคว้าชัยชนะในคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศเมื่อคืนที่ผ่านมา (อาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565) แต่จากการรายงานของสื่อแดนผู้ดีอย่าง The Mirror เงินที่ได้จากการเป็นแชมป์ครั้งนี้ยังไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาในการจ่ายค่าเหนื่อยสัปดาห์เดียวของนักเตะที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดของพวกเขาด้วยซ้ำ ทั้งนี้การปะทะกันที่สนามเวมบลีย์ที่มีผู้ชมเต็มความจุสนามเป็นครั้งแรกในรอบสองปีต้องมาหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษที่ได้เห็นนักเตะทั้ง 22 คนรับหน้าที่ยิง และสุดท้ายปรากฏว่า ผู้รักษาประตูตัวสำรองของเชลซีอย่างเกปา อาร์ริซาบาลาก้า คือคนที่ยิงพลาดส่งหงส์แดงคว้าแชมป์ไป
แต่ชัยชนะในนัดนี้ยอดทีมแห่งแอนฟิลด์ได้เงินรางวัลที่ถือว่าค่อนข้างน้อย ในขณะที่รอบชิงชนะเลิศบอลถ้วยส่วนใหญ่มักจะเห็นผู้ชนะเดินออกไปพร้อมกับเงินรางวัลนับล้านๆ ปอนด์ แต่คาราบาว คัพ มีเงินรางวัลสำหรับทีมแชมป์ที่ถือว่าน้อยกว่าบอลถ้วยอื่นๆ โดยเงินกองกลางทั้งหมดสำหรับทัวร์นาเมนต์ทั้งหมดอยู่ที่ 200,000 ปอนด์ แต่นั่นสำหรับสี่ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศหรือเข้ารอบลึกกว่านั้นเท่านั้น
อาร์เซนอล และท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ซึ่งทั้งคู่ตกรอบรองชนะเลิศ ต่างก็ได้รับเงินส่วนแบ่งทีมละ 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 1,093,000 บาท) รองแชมป์ที่เวมบลีย์ได้เงินรางวัล 50,000 ปอนด์ (ประมาณ 2,000,000 บาท) ในขณะที่ผู้ชนะอย่างลิเวอร์พูลจะเดินออกไปพร้อมเงิน 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 4,375,000 บาท) เรียกว่าไม่ถึงครึ่งของผู้ที่ได้ค่าเหนื่อยสูงสุดของทีมอย่างเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่รับอยู่ที่ 220,000 ปอนด์/สัปดาห์ ซึ่งตรงกันข้ามกับเอฟเอ คัพ อย่างสิ้นเชิงซึ่งจะมีเงินรางวัลเพิ่มขึ้นทุกรอบ โดยผู้ชนะในฤดูกาลนี้รับประกันเงินรางวัลขั้นต่ำ 3.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 148,773,000 บาท)
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าเงินที่ได้รับจากการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ ไม่รวมเงินจากค่าขายตั๋วและดีลทางโทรทัศน์ตลอดทัวร์นาเมนท์ของฤดูกาล สำหรับเกมเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ครึ่งแรกต้องถือว่าทั้งสองทีมทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน จะมีจังหวะสุดยอดก็จากการเซฟที่น่าทึ่งของเอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูของเชลซี จากจังหวะที่นาบี เกอิต้า สอดมารับบอลหน้ากรอบ 18 หลาก้มหน้าตะบันด้วยขวาติดไซค์ก้อยโดนเมนดี้ พุ่งไปตะปปมาเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ ตามซ้ำไม่ถึง 5 หลาไปติดเพื่อนร่วมชาติลุกมาเซฟเหลือเชื่อ
ครึ่งหลังเกมเปิดกว้างมากขึ้น และหงส์แดงคิดว่าพวกเขาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 67 จากลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หยอดบอลเข้ากรอบ 6 หลาลึกมาเสาไกลถึงมาเน่ที่โขกชงกระดอนพื้นย้อนไปเข้าทาง โจเอล มาติป ตามมาโขกเสยเพดานตุงตาข่าย แต่จากจังหวะนี้ สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์ ได้รับสัณญานจากห้อง VAR ก่อนตัดสินใจขอวิ่งออกไปดู สุดท้ายหันกลับมาริบสกอร์คืนเนื่องจาก เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่มีส่วนในการได้ประตูไปยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
- เคลเลเฮอร์เผยคล็อปป์บอกอะไรกับเขาหลังดวลจุดโทษเอาชนะเชลซี(มีคลิป)
- 'คล็อปป์' ชี้ใช้ความรู้สึกส่ง 'เคลเลเฮอร์' เฝ้าเสานัดชิง
- ใบแรกซีซั่น! 'หงส์' แม่นเป้าดวลโทษดับ 'สิงห์' ซิวบาวคัพ
และเมื่อหมดเวลา 90 นาทีก็ยังไม่มีฝ่ายไหนทำประตูได้ ต้องต่อเวลาพิเศษ ก็ยังไม่มีใครส่งลูกเข้าประตูสำเร็จ สุดท้าย ต้องดวลจุดโทษตัดสิน เชลซีเปลี่ยนเอาเกปา อาร์ริซาบาลาก้า เข้ามาแทนเมนดี้ แต่ทั้งเขาและควีวิน เคลเลเฮอร์ ไม่สามารถเซฟจุดโทษได้เลย นักเตะทั้ง 22 คนในสนามได้ยิงกันทุกคน เคลเลเฮอร์ยิงเป็นคนที่ 21 และทำสำเร็จ แต่เกปา ซึ่งเป็นคนที่ 22 ยิงข้ามคาน และลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ไป
แสดงความคิดเห็น