จอช ซาร์เจนท์ กองหน้าทีมชาติสหรัฐอเมริกาของนอริช ซิตี้ เผยที่มาท่าดีใจของเขาหลังซัดคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อนบุกไปอัดวัตฟอร์ด 3-0 ในศึกพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

           ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา (ศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565) วัตฟอร์ด เปิดสนามวิคาเรจ โร้ด รับการมาเยือนของนอริช ซิตี้ ปรากฏว่าครึ่งแรกไม่มีประตูเกิดขึ้น แต่ครึ่งหลังทีมเยือน 'นกขมิ้นเหลืองอ่อน' ออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 51 จากจังหวะที่ตีมู ปุ๊กกี้ วิ่งเบียด ซามีร์ จนเสียหลักในเขตโทษ ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นต่อ ทำให้หัวหอกทีมเยือนฉกมาหยอดไปที่จอช ซาร์เจ้นท์ ตวัดยิงด้วยข้างเท้าบอลเช็ดคานเด้งเลยเส้นประตู เช็ค VAR ยืนยันสกอร์ 1-0

           แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นานเกมต้องหยุดชั่วคราว เมื่อแผงไฟสปอร์ตไลท์ในสนามเหย้าเกิดดับเกินครึ่ง ผู้ตัดสินให้ยุติการแข่งขันเพื่อรอการซ่อมแซมแก้ไขราว 10 นาที ก่อนกลับมาแข่งต่อ และปรากฏว่าทีมเยือนขึ้นนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 74 จากจังหวะที่มิลอต ราชิกา ครอสบอลด้านซ้าย และซาร์เจนท์ ปรี่โหม่งกดพื้นกระดอนผ่านมือดาเนียล บัชมันน์

           นาทีที่ 78 เจ้าถิ่นเหลือ 10 คน เมื่อเอ็มมานูเอล เดนนิส โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่พ้นสนาม และที่สุดแล้วทีมเยือนก็มาบวกสกอร์เพิ่ม 3-0 ในนาทีที่ 90+2 เมื่อยูราย คุชก้า ลงไปช่วยเกมรับจิ้มบอลกลิ้งเข้าประตูตนเอง ชัยชนะดังกล่าวทำให้ นอริช เก็บเพิ่มเป็น 16 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 17 ของตาราง พ้นโซนตกชั้นเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ ส่วนวัตฟอร์ด มี 14 คะแนน อยู่อันดับ 18 

           หลังเกม ดีน สมิธ ยอมรับว่าเขากังวลว่าเกมของนอริชที่วัตฟอร์ดจะถูกยกเลิกหลังไฟสนามมีปัญหาขณะที่ทีมของเขากำลังจะได้รับชัยชนะ ทั้งนี้ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน ออกนำ 1-0 ที่วิคาเรจ โร้ด ในตอนที่สปอตไลท์ในมุมสนามเริ่มหรี่ลง แม้ว่าทัศนวิสัยจะยังคงดีอยู่ แต่ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน หยุดเกมนานกว่า 10 นาทีและไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พรีเมียร์ ลีก เกี่ยวกับวิธีการดำเนินการ

           ในที่สุดเขาก็เป่าให้เกมกลับมาเล่นอีกครั้งหลังจากได้รับไฟเขียวจากสมิธและกัปตันทีมนอริช รวมไปถึงกุนซือทีมคู่แข่งอย่างเคลาดิโอ รานิเอรี และกัปตันทีมทั้งสอง เมื่อถูกถามว่าเขากลัวว่าเกมจะจบลงเพราะไฟดับหรือไม่ สมิธ ก็ตอบว่า "กลัวครับ เพราะมันเกิดขึ้นเรื่อยๆ ผมให้คนที่อยู่ข้างหลังผมเริ่มจัดการให้เร็วขึ้น" "โชคดีที่เคลาดิโอ รานิเอรี่ คิดเหมือนผมว่ามันโอเคที่จะเล่นต่อ แต่มันไม่สว่างเหมือนเหมือนปกติ"

           สมิธ ยอมรับว่ามันเป็นชัยชนะที่กระท่อนกระแท่น แต่ยินดีที่ลูกทีมของเขาตอบสนองหลังจากครึ่งแรกที่ย่ำแย่ “ไม่ใช่ภารกิจที่สวยงามของเรา เรารู้ว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่เราเริ่มต้นเกมได้ดีจริงๆ” เขากล่าวหลังจากคว้าชัยชนะครั้งที่สองติดต่อกันหลังจากชนะเอฟเวอร์ตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "เกมมันไม่เป็นใจให้เราในครึ่งแรก แต่เราพูดถึงมันในช่วงพักครึ่ง เราทำได้ดีตอนไม่ได้ครองบอลในวันนี้ แต่ก็มีที่ไม่ดีด้วย เราอยู่ในธุรกิจที่เน้นผลการแข่งขัน เราต้องการผลการแข่งขันในวันนี้ และแน่นอนช่วยให้ทุกคนมีกำลังใจ"

           สมิธยังชมเชยผู้ทำประตู จอช ซาร์เจ้นท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประตูเบิกร่องซึ่งเป็นประตูแรกของเขาในพรีเมียร์ ลีก "เยี่ยมมาก ผมเพิ่งดูย้อนหลัง และคิดว่าเขาเตะพลาด เป็นการอิมโพรไวส์ที่ยอดเยี่ยมและเขาต้องการสิ่งนั้น เขาเป็นคนขยัน เป็นผู้เล่นที่ฉลาด ผมยินดีที่เขาทำได้สองประตู" 

           ซาร์เจนท์ ดาวเตะทีมชาติสหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า: "บอกตามตรงว่ามันรู้สึกเบลอๆ ครับ การได้ประตูแรกและประตูที่สองหลังจากนั้นนั้นค่อนข้างบ้าเลยทีเดียว มันเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา โดยรวมแล้วเป็นค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมมาก" "มันเป็นปฏิกิริยาแบบนึงกับการยกเท้าขึ้นแบบนั้น ผมรู้ทันทีว่ามันเข้าไปแล้ว ผมจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ทำแบบนั้นคือเมื่อไหร่ เป็นประตูแรกที่ไม่เลวเลย!"

           “การตรวจสอบหลังจากประตูที่สองเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าคุณกำลังมองขึ้นไปโดยหวังว่าจะไม่ต้องมาอายหลังจากฉลองไปแล้วแบบนั้น แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นประตู ดังนั้นผมจึงมีความสุข” "มันเปลี่ยนไปมาตลอดเกม และไม่มีโอกาสที่แท้จริงสำหรับทั้งสองทีม แต่เราโชคดีที่ทำได้และได้สองประตูนั้น ลูกที่สองมันช่วยเพิ่มความมั่นใจของผมเป็นอย่างมาก ผมจะพยายามรั้งสถิติของผมให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อรับมือกับมัน"

           ซาร์เจนท์มอบประตูที่สองให้กับลูกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกของเขา "หลังจากประตูแรกที่ผมไม่ได้ฉลองสำหรับทารกแรกเกิดของผม ผมจึงรู้ว่าภรรยาจะต้องว่าต่อว่าผมแน่ๆ ผมเลยคิดว่าผมต้องทำตอนนี้!" "มันเป็นสองสัปดาห์ที่บ้าคลั่งอย่างเห็นได้ชัด แต่ตอนนี้ผมมีความสุขมาก มันน่าทึ่งมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถนำความมั่นใจนั้นไปสู่เกมต่อไปได้" “ตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมอยากเล่นในพรีเมียร์ ลีก มาตลอด ผมรู้ว่ามันเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้นผมจึงต่อสู้เพื่อมาอยู่ที่นี่ และผมก็มีความสุขที่ได้ทำมันในตอนนี้"