“ปาร์ค ฮังซอ” กุนซือทัพ “ดาวทอง” เวียดนาม ยอมรับ ศักยภาพนักเตะ “ไทย” เหนือกว่า “เวียดนาม” นิดหน่อย แต่ยังเชื่อมั่น “เวียดนาม” มีดีที่จะเอาชนะ “ช้างศึก” ทีมชาตืไทยได้ พร้อมชี้ สถิติคุมทัพไม่เคยแพ้ ไทย เป็นแค่อดีตตอนนี้มันต่างกัน

สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบรองชนะเลิศ เลกแรก คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเวียดนาม เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ซึ่ง “ปาร์ค ฮังซอ” กุนซือชาวเกาหลีใต้ของ “เวียดนาม” ได้มาร่วมแถลงความพร้อมก่อนเกมในครั้งนี้ด้วย 

ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือทัพ “ดาวทอง” เวียดนาม เปิดเผยว่า แน่นอน “ทีมชาติไทย” คือทีมเต็งในการลุ้นแชมป์ พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งและมีคุณภาพสูง แต่ตนมองว่าไม่ได้แกร่งกว่าเวียดนามในตอนนี้เท่าไหร่ และจะพยายามทำให้ดีที่สุดและมั่นใจว่าทีมเวียดนามสามารถเอาชนะทีมชาติไทยได้

 

ที่ผ่านมาในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก  ใน 2 เกมหลังสุด ที่เราพบกัน เวียดนามยิงไม่ได้ ไทยก็ยิงไม่ได้ ทั้ง 2 ทีมคงต้องหาทางในการทำประตูให้ได้ ส่วนประเด็นที่ มาโน่ โพลกิ้ง เคยคุมทีม โฮจิมินห์ ซิตี้ ในเวียดนามนั้น ไม่ได้มีอะไรต้องเป็นกังวล เพราะเวียดนามก็เจอกับไท บ่อยและก็รู้จักนักเตะของกันและกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว 

 

ขณะเดียวกันผู่สื่อข่าวได้สอบถาม ปาร์ค ฮัง ซอถึง ประเด็นที่สถิติการคุมทีมเวียดนามเจอกับไทย 6 ครั้ง ยังไร้พ่ายนั้น  “กุนซือทีมชาติเวียดนาม” เปิดใจว่า  มันคือผลงานในอดีตไม่มีผลต่อเกมที่จะเจอกันในวันพรุ่งนี้ เพราะทุกๆเกมมันจะต่างกัน แต่พวกเรา (เวียดนาม) จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ดี

 

แน่นอนการที่ไทยได้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ  ธีราทร บุญมาทัน ที่เล่นในเจลีก ญี่ปุ่น มาร่วมทีมในครั้ง ถ้าเทียบกับตอนที่ไทยเล่นในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่ไม่มีทั้ง 2 คนมาร่วมทีมนั้น ต้องบอกว่า ทีมไทยเปลี่ยนไปเยอะมาก และ มีการเคลื่อนไหวที่ดีมากๆด้วยทำให้เราเองต้องศึกษาให้ดี”  ปาร์ค ฮังซอ กล่าว

 

สำหรับทีมชาติไทย จะพบกับ เวียดนาม ในรอบรองชนะเลิศของศึกชิงแชมป์อาเซียน โดยนัดแรกจะแข่งขันในวันที่ 23 ธันวาคม 2564 และนัดที่สองจะแข่งขันในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น.ทั้งสองเกม และทุกนัดถ่ายทอดสดทาง CH7 HD และ AIS Play