ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยผลงานยอดเยี่ยม หลังจากบุกถล่มเอาชนะ นอริช 3-0 โดยเกมนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงหนึ่งประตู ทำอีกสองแอสซิตส์ และเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ ลีก ที่ยิงประตูเกมนัดเปิดฤดูกาลได้ 5 ซีซั่นติดต่อกัน

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดเปิดฤดูกาลใหม่ 2021-22 วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 เป็นเกมระหว่าง "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้ ทีมน้องใหม่หน้าเก่า เปิดสนาม แคร์โรว์ โร้ด ต้อนรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล

GOAL นาที 26 ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ขึ้นนำก่อน 1-0 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาตรงกลางเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับบอลจังหวะแรกไม่ดี แต่ยังมาเข้าทาง ดีโอโก้ โชต้า ตวัดยิงเร็วด้วยเท้าขวาสวนตัว ทิม ครูล เข้าประตูไป

GOAL นาที 65 ทีมเยือน ลิเวอร์พูล สกอร์หนีเป็น 2-0 ซาดิโอ มาเน่ ยิงจังหวะแรกในเขตโทษไปติดแนวรับ นอริช แต่บอลมายังมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ด้านขวา หักบอลเร็วเข้ากลางให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตัวสำรองในเกมนี้ วิ่งมายิงบอลเรียดสวนตัว ทิม ครูล เข้าประตูไป

GOAL นาที 74 ทีมเยือน ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-0 คอนสแตนตินอส ซิมิกาส เปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้ายเข้าในเขตโทษโดนผู้เล่น นอริช โหม่งบอลเคลียร์ออกมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนจะบรรจงยิงปั่นโค้งด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งหนีมือ ทิม ครูล เข้าประตูไป

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม 90 นาที ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ นอริช ซิตี้ ด้วยสกอร์ 3-0 ประเดิมคว้า 3 แต้มแรกตั้งแต่เกมนัดเปิดฤดูกาลใหม่ พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จ โดยโปรแกรมนัดต่อไปของทีม "หงส์แดง" จะเล่นในแอนฟิลด์ เจอกับ เบิร์นลี่ย์ ในวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม เวลา 18.30 น. ส่วนทีม "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" เกมหน้าเจอศึกหนักบุกไปเยือนแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม เวลา 21.00 น.    

ผู้เล่นตัวจริง นอริช ซิตี้ (ระบบการเล่น 4-3-2-1) : ทิม ครูล (ผู้รักษาประตู) - มักซ์ แอรอนส์, แกรนท์ ฮานลี่ย์ (กัปตันทีม), เบน กิ๊บสัน, ดิมิตริส เจียนนูลิส - ลูคัส รุปป์, บิลลี่ กิลมอร์, ปิแอร์ ลีส์-เมลู - ท็อดด์ แคนท์เวลล์, มิลอต ราชิก้า - ตีมู ปุ๊กกี้

ผู้เล่นตัวจริง ลิเวอร์พูล (ระบบการเล่น 4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ (ผู้รักษาประตู) - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส - นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ (กัปตันทีม), อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดีโอโก้ โชต้า