รองประธาน AVC เผยอดีตหัวเสาอินโดนีเซีย อาจจะโดนบทลงโทษย้อนหลัง หลังตรวจพบว่าเป็นผู้ชาย ขึ้นอยู่กับทาง FIVB รวมทั้งมีทีมต้องการฟ้องร้องหรือไม่

เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ รองประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ สหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (AVC) เปิดเผยว่า สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) อาจมีบทลงโทษย้อนหลังกับ เอพริล มังกานัง อดีตหัวเสาทีมชาติอินโดนีเซีย หลังตรวจพบว่าเป็นผู้ชาย

กองทัพอินโดนีเซียออกแถลงการณ์ว่าอดีตดาวเด่นทัพสาวอิเหนา เกิดมาเป็นผู้ชายแต่มีความผิดปกติของ hypospadias หรือระบบทางเดินปัสสาวะมีความผิดปกติ คือรูเปิดของท่อปัสสาวะ ไม่ได้เปิดที่ปลายสุดของอวัยวะเพศ แต่มาเปิดค่อนไปทางด้านล่างของอวัยวะเพศ รวมถึงการตรวจฮอร์โมน พบว่ามีฮอร์โมนเพศชาย จากการตรวจเบื้องต้นที่โรงพยาบาลในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ ก่อนที่ทางกองทัพจะส่งมาตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งที่กรุงจาการ์ตา ซึ่งเกิดคำถามตามมาว่าหาก มังกานัง เป็นผู้ชายตั้งแต่ตอนแรก แล้วที่ผ่านมาลงแข่งขันในนามทีมหญิงจะมีผลลงโทษหรือไม่

เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ เผยว่า "ทางสหพันธ์วอลเลย์บอลเอเชีย (AVC) จะยึดตามฝ่ายกฎหมายของทาง สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) เป็นหลัก กรณีที่ทางอินโดนีเซียแถลงยืนยันว่าเป็นผู้ชายอย่างเป็นทางการแล้ว"

"หากฝ่ายกฎหมายของ FIVB พบว่ามีข้อกฎหมายที่มีความผิดก็จะดำเนินการลงโทษ แต่เบื้องต้นเท่าที่ทราบยังไม่มีบทลงโทษย้อนหลัง เพราะเขาไม่ได้ลงเล่นมา 2-3 ปีแล้ว ก็ต้องดูว่าเขาเล่นซีเกมส์ปีไหนบ้าง หากผิดจริงก็อาจจะมีการยึดเหรียญรางวัลย้อนหลังได้ การฟ้องร้องต้องดูเรื่องของระยะเวลา กับระเบียบการแข่งขัน รอดูผลการตรวจให้ชัดเจนก่อน"

สำหรับ เอพริล มังกานัง ในวัย 28 ปี ประกาศเลิกเล่นวอลเลย์บอลไปเมื่อเดือนกันยายน 2563 และเขาเคยลงเล่นให้ทีมชาติอินโดนีเซีย ในการแข่งขันซีเกมส์มา 3 สมัย สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ทั้ง 3 ครั้ง เหรียญทองแดง ปี 2013, 2015 และ เหรียญเงิน ปี 2017