หลังสู้กันมากว่าครึ่งปี ในที่สุดศึกลูกหนังไทยลีก 3 ปิดฤดูกาลปกติไปเรียบร้อยแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไป เป็นการแข่งขันในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ของ 12 ทีมสุดท้าย คือแชมป์และรองแชมป์จาก 6 โซนมาต่อสู้เพื่อตั๋ว 3 ที่นั่งขึ้นสู่ไทยลีก 2

 สรุปผลอีกครั้ง สำหรับแชมป์และรองแชมป์จากทั้ง 6 โซน ที่เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2022-23

 โซนภาคเหนือ : พิษณุโลก เอฟซี (แชมป์), อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี (รองแชมป์) ในโซนนี้เป็นการกลับมาล้างตาอีกครั้งสำหรับ "ขุนพลนเรศวร" พิษณุโลก เอฟซี หลังจากฤดูกาลที่แล้ว พลาดตั๋วใบสุดท้ายด้วยการโดนจุดโทษท้ายเกม ในเกมชิงอันดับสามกับ "นครศรี ยูไนเต็ด" ส่วน "อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี กับรอบแชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยก็ไม่ธรรมดา

 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี (แชมป์) , ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด (รองแชมป์) ในโซนนี้จากอดีตทีมที่แค่ได้เข้าร่วม แต่ฤดูกาลนี้ "มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี" คั่วแชมป์ตั้งแต่ต้นฤดูกาลจนเข้าป้ายสำเร็จเป็นครั้งแรก

 โซนภาคตะวันออก :  พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด (แชมป์), จันทบุรี เอฟซี (รองแชมป์) โซนนี้ พัทยา รักษาแชมป์ได้อีกสมัย หลังอกหักไปในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลก่อน ปีนี้แน่นอนหวังสูงกว่าเดิม ส่วน "จันทบุรี เอฟซี" อดีตไทยลีก 2 ที่เงียบไปนาน หวนกลับมามีชื่ออีกครั้ง

 โซนภาคตะวันตก : ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี  (แชมป์), สมุทรสงคราม เอฟซี (รองแชมป์) ในโซนนี้ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี มาแรงโค้งสุดท้ายเข้าป้ายคว้าแชมป์ และการกลับมาอีกครั้งของทีมดัง "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี

 โซนกรุงเทพและปริมณฑล : ม.นอร์ทกรุงเทพ (แชมป์), บางกอก เอฟซี (รองแชมป์) เป็นการเข้าป้ายเหมือนเดิมจากฤดูกาลก่อน แต่น่าเห็นใจที่ทีมอันดับสามที่มีแต้มเท่าสองอันดับแรกคือ "สมุทรสาคร ซิตี้" ต้องหลุดโผด้วยกฏมินิลีก

 โซนภาคใต้ : สงขลา เอฟซี (แชมป์โซน) , เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้ (รองแชมป์) จากทีมอกหักตั้งแต่รอบโซนใต้ที่ตกเป็นที่สาม มาฤดูกาลนี้ "เหงือกสมิหลา" จัดหนักคว้าแชมป์ก่อนปิดลีกและเป้าหมายคือไทยลีก 2 ส่วน เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้ มาปีกแรกก็เข้ารอบถือว่าเป็นม้ามืดที่ประมาทไม่ได้เลย

 จาก 12 ทีม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม เป็นกลุ่มตอนบน และกลุ่มตอนล่าง แต่ละกลุ่มมี 6 ทีม

 กลุ่มตอนบน ประกอบด้วย พิษณุโลก เอฟซี, อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี, มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี, ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด, พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด, จันทบุรี เอฟซี 

 กลุ่มตอนล่าง ประกอบด้วย ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี ซิตี้, สมุทรสงคราม เอฟซี, ม.นอร์ทกรุงเทพ, บางกอก เอฟซี,  สงขลา เอฟซี และ เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้ 

 รูปแบบการแข่งขัน พบกันหมดในกลุ่ม แข่งทีมละ 5 นัด แชมป์กลุ่มขึ้นสู่ไทยลีก 2 ส่วนอันดับสองต้องเพลย์ออฟหาตั๋วใบสุดท้ายด้วยการชิงอันดับสาม นัดแรกแข่งขัน 1-2 เมษายน

 ผลการจับสลากสัปดาห์แรก ดังนี้ กลุ่มตอนบน พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด พบ มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี, ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด พบ จันทบุรี เอฟซี และ พิษณุโลก เอฟซี พบ อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี

ส่วนผลการจับสลากสัปดาห์แรก กลุ่มตอนล่าง ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี พบ สงขลา เอฟซี, สมุทรสงคราม เอฟซี พบ บางกอก เอฟซี และ นอร์ทกรุงเทพ พบ เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้

 สำหรับรอบเพลย์ออฟชิงอันดับสาม นัดแรกแข่งขัน 12-14 พฤษภาคม 2566 นัดสองแข่งขัน 20 พฤษภาคม 2566 นัดแรกกลุ่มตอนบนจะเป็นเจ้าบ้านก่อน นัดสองเจ้าบ้านจะเป็นกลุ่มตอนล่าง ใช้กฏอเวย์โกล

 รอบชิงชนะเลิศ สำหรับแชมป์กลุ่ม นัดแรกแข่งขัน 12-14 พฤษภาคม 2566 นัดสองแข่งขัน 21พฤษภาคม 2566 แชมป์กลุ่มตอนล่าง จะเป็นเจ้าบ้านก่อน นัดสองเจ้าบ้านจะเป็นแชมป์ตอนบน และใช้กฏอเวย์โกล

 ทีมข่าว SMMSPORT สำรวจตรวจสอบและเทียบฟอร์ม รวมถึงความพร้อมของแต่ละกลุ่มมาวิเคราะห์กันว่า จะมีทีมใดบ้างที่มีโอกาสขึ้นสู่ไทยลีก 3

 กลุ่มบน ต้องยอมรับว่า เต็งจ๋า คือ "ขุนพลนเรศวร" พิษณุโลก เอฟซี ทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์กลุ่ม และคว้าตั๋วขึ้นสู่ไทยลีก 2 มากที่สุด

 "ขุนพลนเรศวร" พิษณุโลก เอฟซี เป็นทีมที่เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกมากที่สุด 6 สมัย แต่ช้ำใจสุดหนีไม่พ้นฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อโดนจุดโทษนาทีสุดท้ายพ่าย "นครศรี ยูไนเต็ด" ในการชิงอันดับสามจึงจำต้องมาไต่เต้าใหม่ในฤดูกาลนี้

 "บอสต้น" ศิริพงษ์ ฐาราชวงษ์ศึก ประกาศกร้าวต้องไทยลีก 2 เริ่มต้นด้วยการจัดทัพโดยใช้ขุมกำลังหลักมาจาก "ลำพูน วอริเออร์" ทำให้ทีมมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นแชมป์โซนเหนือ และเป็นทีมเดียวที่ไร้พ่ายในศึกไทยลีก 3

 "โค้ชปอนด์" จงสฤษดิ์ วุฒิช่วย  กุนซือมากประสบการณ์ผ่านการทำทีมเลื่อนชั้นมาแล้วคงมีวิธีจัดการนำพา "พิษณุโลก เอฟซี" สำเร็จเป้าหมายเสียที

 ส่วนทีมอันดับสอง เรียกได้ว่าสูสีเหลือประมาณระหว่าง พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด  กับ มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี

 "น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น พาทีม "อุทัยธานี เอฟซี" คว้าแชมป์ประเทศเมื่อฤดูกาลก่อน มาฤดูกาลนี้อาสานำพา "พัทยา" ไปให้ถึงฝัน แต่อย่างประมาท "มหาสารคาม" ของ "โค้ชบู๋" จักรราช โทนหงษา กุนซือที่สร้าง"กระรอกขาวเจ้าสนาม" ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด เป็นแชมป์อิสานอยู่หลายปี คู่นี้ใครจะเข้าป้ายติด 1 ใน 2 เกมนัดแรกที่ต้องมาเจอกัน อาจเป็นคำตอบ

 สำหรับกลุ่มตอนล่าง ถือได้ว่าสูสีสุดประมาณ แต่หากถามหาทีมพร้อมและฟอร์มที่เปรี้ยงปร้างยกให้เป็นทีมเต็งคือ "เงือกสมิหลา" สงขลาเอฟซี

 ในฤดูกาลก่อน "เงือกสมิหลา" สงขลา เอฟซี อกหักจบอันดับที่ 3 ในโซนใต้ กลับมาฤดูกาลนี้มีเป้าหมายเดิมคืออย่างน้อยต้อง "แชมเปี้ยนส์ลีก" และหวังลึกถึงไทยลีก 2

 ต้นฤดูกาลจัดหนักตั้งแต่การดึงโค้ชระดับไทยลีกจากการท่าเรือ "โค้ชอู๊ด" สระราวุฒิ ตรีพันธ์ พร้อมขุมกำลังมากประสบการณ์ นำโดย "กัปตันเจ๋ง" ยุทธพงษ์ ศรีละคร แนวรับจากหนองบัว พิชญ และดาวยิงบราซิล "จาร์เดล คาปิสทราโน่" จากราชประชา 

 ด้วยความมุ่งมั่นและขุมกำลังพร้อมทำให้ "สงขลา เอฟซี" ถึงเป้าหมายเร็วกว่ากำหนด คือ นอกเหนือจากการคว้าตั๋วลุยรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ยังคว้าแชมป์โซนใต้ได้อีกด้วย หลังเกมบุกไปถล่ม "ตรัง เอฟซี" ขาดลอย 4-0 ทิ้งห่างอันดับ 2 "ปัตตานี เอฟซี" เวลานั้นถึง 13 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 4 เกม

 ผลงานในเลกสองของ "เงือกสมิหลา" ถือว่าแรงเมื่อทำสถิติไร้พ่ายใน 11 นัด เก็บชัยชนะได้ถึง 9 เกม เสมอ 2 เกม เสีย 4 ประตู และเก็บคลีนชีทถึง  7 เกม 

 ในขณะที่แนวรุก "จาร์เดล คาปิสทราโน่" กองหน้าบราซิเลี่ยน ยิงระเบิด 17 นัด 18 ประตูในฤดูกาลเดียว ทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดของ "เงือกสมิหลา" ที่ นาธาน โอลิเวียร่า กับ อับดุลสาลาม สาม่าน เคยทำไว้ที่ 14 ประตู

 ส่วนทีมอันดับสองเรียกได้ว่าสูสีสุด ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี ซิตี้, สมุทรสงคราม เอฟซี และ เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้ 

 "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี หลังจากได้กุนซือมากประสบการณ์ "ดาเนี่ยล เบลอง" มาสร้างทีมจนโชว์ผลงานสุดยอดในเลกแรก แต่ด้วยปัญหาเรื่องค่าจ้างทำให้จำต้องแยกทาง ก่อน "โค้ชยอร์ค" ยอร์ค ปีเตอร์ สเตนบรุนเนอร์ กุนซือผู้นำพา "นครศรี ยูไนเต็ด" เลื่อนชั้นเมื่อฤดูกาลก่อน เข้ามาสานต่อและทำงานตามเป้า

 ถึงตอนนี้ "ปลาทูคะนอง" หวังไกลเพื่อไป "ไทยลีก 2" หลังทำผลงานยอดเยี่ยมตามลำดับ โดยเฉพาะในฟุตบอลถ้วย "รีโว่ ลีกคัพ" เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนก่อนบุกไปพ่าย ราชบุรี เอฟซี ทีมไทยลีก 1 อย่างสูสี 

 นับตั้งแต่ไม่ผ่านคลับ ไลเซนซิ่ง ทำให้ร่วงจากไทยลีก 2 ตกไปอยู่ใน อเมเจอร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2017 ก่อนสู้กลับมาอยู่ไทยลีก 3 แต่ "ปลาทูคะนอง" ที่เคยเปรี้ยงปร้างกลับเงียบกริบอยู่แค่ลีกรากหญ้าในโซนตะวันตก โดยฤดูกาลล่าสุดจบที่ 10 จากจำนวน 11 ทีม

 แต่ในฤดูกาล 2022-23 "สมุทรสงคราม เอฟซี" ภายใต้การบริหารของ "นายกตี๋ ปลาทอง" สมชาย ตันประเสริฐ ออกสตาร์ทอย่างร้อนแรง นำจ่าฝูงของโซนมาโดยตลอด ก่อนมาสะดุดในเลกสอง และถูก "มังกรไฟ" ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี แซงเข้าเป็นแชมป์โซน

 สำหรับ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี เริ่มต้นฤดูกาลฟอร์มยังแกว่ง กระทั่งการเสริมในเลคสองที่ได้ "โค้ชใหญ่" ใหญ่ นิลวงศ์ จาก "เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้" และดาวเตะจอมเก๋า "อนาวิน จูจีน" จาก "ยักษ์แสด" อุดรธานี เอฟซี ทำให้  "มังกรไฟ" ติดปีกแซงคว้าแชมป์โซนไปในที่สุด

 อีกทีมต้องพูดถึงและเป็น "ม้ามืด" ที่ประมาทไม่ได้ แม้ชื่อจะใหม่และเข้าร่วมไทยลีก 3 เป็นฤดูกาลแรกสำหรับ "เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้" แต่ขุมกำลังไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นอดีตดาวเตะทีมชาติ "อาทิตย์ ดาวสว่าง" และดาวยิงบราซิล "อังเดร หลุยส์" บวกขุมกำลังจาก "นครศรี ยูไนเต็ด" ชุดเลื่อนชั้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว งานนี้ "บอสฑล" มณฑล ณ นคร ประธานสโมสรเน้นทุกนัดแน่นอน

 หากจะสรุปถึงทีมเลื่อนชั้น "พิษณุโลก เอฟซี" และ "สงขลา เอฟซี" ถือว่าเป็นกลุ่มเต็งจ๋า หากมองทีมที่สามเรียกได้ว่ามีสิทธิ์ออกทุกหน้าแต่เชื่อว่า "สมุทรสงคราม เอฟซี" และ "พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด" น่าจะได้ลุ้นมากกว่า

 แต่หากจะมีการพลิกล็อกและผิดโผ ด้วยศักยภาพของทีมในรอบนี้ก็ถือว่าไม่น่าจะแปลกใจ !!