สวัสดีครับ วันนี้ผม พี คนดูบอล ทีมงาน SMMSPORT จะมาพูดถึงทีมในโซนหนีตายอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ได้มีการเปลี่ยนโค้ช กลับมาใช้คนคุ้นเคยโค้ชโจ อดีตหัวหน้าโค้ชที่แยกทางกันไป เพื่อเข้ามากู้วิฤตทีม กับเป้าหมายคือพาทีมอยู่รอดในลีกสูงสุดให้ได้ 

และแน่นอน ตั้งแต่ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ตัดสินใจเข้ามารับงานคุมบังเหียน ที่ “สวาทแคท” อีกครั้ง เจ้าตัวไม่สามารถมีเวลาได้หยิบจ่ายใช้สอยบรรดานักเตะที่จะเอาเข้ามาใหม่แม้แต่น้อยนิด ต้องใช้แกนหลักจากโค้ชคนเดิม ซึ่งการมารับงานครั้งนี้ ใครๆ ก็บอกว่า เสี่ยง!! และมองว่า นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี คืออีกหนึ่งตัวเต็งที่จะกระเด็นร่วงตกชั้นไปในปีนี้ 

แต่ใครจะเชื่อว่าในช่วงระยะเวลาที่น้อยนิด กับบรรดาผู้เล่นชุดเดิมที่เล่นไม่มีทรงกับเกมที่พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สมัยที่ เควิน แบล็คเวลล์ เป็นหัวหน้าโค้ช หลังจากนั้นพวกเขาแพ้แค่เกมเดียวจาก 5 เกมหลังสุด ในยุค “โค้ชโจ” คัมแบ็ค และทำไมการเข้ามาของ “โค้ชโจ” ถึงยกระดับผลงานของทีมได้อย่างรวดเร็ววันนี่เราจะมาเจาะลึกกัน

อย่างแรก “โค้ชโจ” มีแนวทางที่ชัดเจน

อันนี้ต้องยอมรับว่าตัวของ โค้ชโจ ไม่ว่าจะคุมทีมไหนเจ้าตัวมีแบบแผนและแนวทางการเล่นที่ค่อนข้างชัดเจน ที่สำคัญโค้ชโจ รู้ว่านักเตะคนไหนมีศักยภาพยังไง และควรใช้นักเตะคนนั้นด้วยวิธีการแบบไหน ซึ่งแน่นอนระยะเวลาที่เข้ามามันไม่มีเวลาได้ศึกษา หรือวางระแบบแนวทาง หรือแบบแผนที่ตัวเองอยากเล่นได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน แต่สิ่งที่โค้ชโจทำมันทำให้เห็นว่า การที่โค้ชรู้คุณภาพของนักเตะตัวเอง และรู้วิธีการใช้นักเตะ บวกกับมีแบบแผนแนวทางเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันจึงทำให้ทีมที่ไม่มีทรงในหลายเกมก่อนหน้าที่โค้ชโจ จะเข้ามา ยกระดับทีมตัวเองขึ้นมาได้ทันที จาก 5 เกมในลีกที่ทำผลงานแพ้เกมเดียว ชนะ 2 เสมอ 2 เก็บ 6 แต้มสำคัญจาก 2 เกมหลัง ถีบตัวเองพ้นจากโซนอันตรายได้แล้วเรียบร้อย

 

อย่างที่สอง โค้ชที่มีแพชชั่นเต็มเปี่ยม และ ให้ใจนักเตะ 

อย่างนี้ทุกคนคงเห็นว่า โค้ชโจ มีแพชชั่นกับข้างสนามมากแค่ไหน กับการที่ทุ่มเททั้งหัวคิด และร่างกายให้กับทีม โดยเฉพาะทุกครั้งที่ทีมทำประตูได้ เจ้าตัวจะวิ่งไปกระโดด ดีใจกับเป็นนักเตะอีกหนึ่งคนในสนาม แล้วการทุ่มเทแบบนี้นักเตะจะไม่มีแพชชั่น เหมือนกับโค้ช ได้อย่างไร ในเมื่อโค้ชมีแพชชั่นของชัยชนะ และให้ใจลูกทีมขนานนั้น นักเตะทุกคนมีหรือจะไม่ทุ่มเท และให้ใจกลับคืน นี่แหละคือหนึ่งจุดเด่นที่ผมมองว่าโค้ชโจ เข้ามายกระดับให้ทีมมีอะไรมากขึ้น และพาทีมรอดตกชั้นได้แน่ ถ้ามูท ทีม ยังดีแบบนี้อยู่ 

และนี่คือ 2 สิ่งใหญ่ๆ ที่ผมมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น เข้ามาคุมบังเหียนทีม นี่แหละที่เขาเรียกว่า บอลเปลี่ยนโค้ช เปลี่ยนทั้งผลการแข่งขัน, อันดับตารางคะแนน และที่สำคัญคือผลงานในสนามที่เปลี่ยนไปเป็นคนละทีม ที่เล่นเหนียวแน่น แพ้ยาก ไปเฉยเลย

หวังว่า จะรักษาผลงานการเล่นให้คงเส้นคงวาจนจบฤดูกาลไปได้ กับอีก 7 เกมที่เหลือให้ลุ้นหนีตาย หวังว่าจะพาทีมอยู่รอด และที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องชื่นชม ปลุก “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง ให้กลับกลายมาเป็นร่างทองอีกครั้ง แน่นอนวิธีการเล่นของเขายังเหมือนเดิม แบบเดิม แต่ความมั่นใจ มันไม่เหมือนเดิม แม้เพิ่งจะกลับมาเล่นได้ดีขึ้นอีกครั้ง 


แต่ก็ถือว่าถูกที่ถูกเวลากับจังหวะของ โคราช ในมือของ โค้ชโจ ที่กำลังต้องการนักเตะแบบนี้ 

ของจริง ผลงานเปลี่ยนเป็นคนละทีม ยอมรับ เปลี่ยน สวาทแคท ได้จริง

“โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น