ทัพ “ช้างศึก” ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่มเอ ตามเป้าที่วางไว้ แต่การจะเอาชนะกัมพูชา ถือไม่ใช่งานง่ายเลย และนี่คือสิ่งที่ผมเห็น และอยากให้ทุกคนลองอ่านกันดู

วันนี้ผม พี คนดูบอล ทีมงาน SMM SPORT จะมาพูดถึงประเด็นล่าสุดของศึกชิงแชมป์อาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิอิเล็กทริคคัพ ในนัดส่งท้ายที่ทีมชาติไทย เปิดบ้านเอาชนะ ทีมชาติกัมพูชาไป 3-1 ว่าในเกมนี้มีอะไรที่ผมเห็น และมีประเด็นที่น่าสนใจอะไรบ้าง

ต้องย้อนไปก่อนเริ่มเกมในค่ำคืนที่ผ่านมา คือทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ของเราจำเป็นต้องชนะ และต้องยิงประตูให้เยอะด้วย เพื่อการันตีการเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม ทั้งๆที่ ทีมชาติไทย ขอแค่เสมอก็เข้ารอบแล้ว แต่การเข้าแชมป์กลุ่มมันทำให้เรา ได้ไปเล่นในรอบต่อไปในนัดที่สอง คือมีโอกาสรับแชมป์ในบ้านต่อหน้าแฟนบอล ซึ่งจะมองเป็นข้อได้เปรียบก็ว่าได้ 

สำหรับเกมในวันนี้ก็ไม่ผิดคาดอะไร ทีมชาติไทย จัดนักเตะชุดที่ว่าดีที่สุดในแบบฉบับ ที่ มาโน่ โพลกิ้ง มั่นใจลงสนาม ไม่มีเปลี่ยนแปลงเหมือนเกมกับอินโดนีเซีย โดยนักเตะทุกคนเป็นชุดเดิมจาก 2 เกมแรกประกอบไปด้วย

กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (GK), ศศลักษณ์ ไหประโคน, ธีราทร บุญมาทัน (C), พรรษา เหมวิบูลย์, สารัช อยู่เย็น, อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา, บดินทร์ ผาลา, กฤษดา กาแมน, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, เอกนิษฐ์ ปัญญา

ซึ่งรูปเกมแน่นอนทีมชาติไทยต้องเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ ครองบอลได้เยอะกว่าแต่หาจังหวะเข้าทำค่อนข้างลำบาก และอีกอย่าง กัมพูชา ชุดนี้เล่นได้ตามแบบฉบับ ซามูไร เลยก็ว่าได้  ทักษะส่วนตัวยอดเยี่ยม กล้าเล่น ไม่กลัวทีมชาติไทยเราเลย

แต่ในวันนี่เราก็มาได้ประตูปลดล็อคจากจุดโทษ และก็ความยอดเยี่ยมของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่เหมาสอง บวกกับอีกหนึ่งลูกจาก สุมัญญา ปุริสาย ซึ่งต้องยกเครดิตให้ มาโน่ สำหรับการเปลี่ยนตัวนักเตะในช่วงครึ่งหลังทำให้ได้ประตูหนีห่างออกไปเร็ว

แต่เกมก็เหมือนจะอยู่ในการควบคุมของทีมชาติไทย แต่จนแล้วจนรอดก็มาพลาดท่าโดนไล่มา แต่ยังโชคดีที่ฟ้ายังลิขิต ให้อีกคู่ ฟิลิปปินส์ ก็ยิงไล่อินโดนีเซียมาเช่นกัน ก่อนที่จะมาได้ประตูปิดกล่องจบแชมป์กลุ่มแบบสวยงาม

ถ้าถึง ณ เวลานั้น ทัพ “ช้างศึก” ที่นำอยู่ 2-1 ก็ยังเข้าไปแชมป์กลุ่มหลังประตูได้ลบเสีย เราบวกมากกว่า 

สำหรับ ทั้งหมดของเกมนี้ก็ต้องบอกเลยว่า ฟุตบอลระดับอาเซียน สำหรับ ทีมชาติไทย ไม่ใช่งานง่ายอีกต่อไปแล้วทุกทีมพัฒนาขึ้น มีรูปแบบการเล่นที่เป็นระบบ และอีกอย่างมันก็ไม่เคยง่ายสำหรับเรามานานแล้ว มันไม่ใช่การย่ำอยู่กับที่ แต่เราต้องชื่นชมทีมเพื่อนบ้านที่พัฒนาจนทำให้เราเอาชนะได้ยากลำบากมากขึ้น

ผมมองว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำมันจะได้เกิดการแข่งขัน ยิ่งเจอคนเก่งเราก็จะยิ่งเก่ง ไม่งั้นก็จะคิดว่าตัวเองเก่งมาตลลอด และก็ผูกขาดชัยชนะอยู่ฝั่นเดียว แบบแบเบอร์ ซึ่งดีแล้ว ผมเชื่อเราไม่ได้อยู่กับที่เราแค่ก้าวช้า และเขาก้าวเร็วขึ้นเท่านั้นเอง

แถมอีกอย่าง กัมพูชา ชุดนี้ที่ผมมองเห็น เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม ทักษะส่วนตัวก็ดี แถมดูดีมีระบบ อนาคตต่อยอดได้แน่ๆ ด้วยนักเตะเฉลี่ยทั้งทีมแค่ 24 ปีเองด้วยซ้ำ 

มันต่างจากเราที่ระบบ รวมถึงรูปแบบ แฟนบอลอย่างเราๆ ก็อาจจะยังมองไม่เห็นสักเท่าไหร่ แต่โชคดีที่ศักยภาพผู้เล่นมันยังต่างกัน และผลลัพธ์ที่ มาโน่ ทำ ในรูแปบบวิธีการมันได้ และมันตามเป้าอันนี้ก็ว่าไม่ได้ เพราะเป็นวิธีการที่ โค้ช ของเราวางไว้ และทำได้ตามเป้า แต่นั้นแหละ ผมพูดไปตอนนี้เราอาจจะเข้าไปเป็นแชมป์ก็ได้ 

แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่อยากจะคิดถ้าเขาพัฒนาแบบนี้เรื่อยๆ อีก 10 ปีเขาจะก้าวขึ้นมาเทียบเท่าหรือใกล้เคียงเราแค่ไหน ทั้งๆที่บอลอาเซียน เราเจอ กัมพูชา ด้วยชื่อชั้นเราต้องยิงยับแน่ๆ ในสมัยก่อน ที่พูดไม่ใช่จะบอกเราไม่พัฒนา แต่ถ้าเขาพัฒนามาเรื่อยๆ มันจะน่าชมแค่ไหน แค่คิดก็อยากเห็นแล้ว

แต่การเล่นของเรามันก็ดูน่าหงุดหงิด นิดนึงแต่ถ้านับผลการแข่งขันถือว่าได้ตามเป้าที่ต้องการ สำหรับการจบแชมป์กลุ่ม

ก็ต้องมารอดูกิ๋นของ โค้ช อย่าง มาโน่ โพลกิ้ง ว่าการผ่านเข้ารอบรองไปรักษาแชมป์ครั้งนี้ จะมีแบบแผน และวิธีการยังไง เพราะ 4 นัดในรอบแรกนักเตะเราน่าจะล้าพอสมควร เพราะเล่นจัดเต็มทุกเกมเลย 

และอีกอย่างสำรองทีเด็ด ที่ลงมา และเล่นได้เหมือน 11 ตัวจริง หรือนักเตะแกนหลักบางคนที่เล่นไม่ดี และไม่เข้าฟอร์ม 

ก็ต้องกล้าเปลี่ยนและให้โอกาสคนอื่นลงไปเล่นแทนบ้าง เลือกมาแล้วก็ต้องใช้ ไม่งั้นจะเรียกมาทำไม ฝากหน่อย เอาใจช่วยเสมอ

- พี คนดูบอล -