16 แม่ทัพใหญ่ ! มาเช็กชื่อกุนซือที่จะคุมทีมลุยศึกฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2022-23 กันหน่อยว่ามีใครบ้าง และใครจะไปก่อนกัน สำหรับการแข้งขันในเดือนสิงหาคม 2565 ฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาลใหม่ 2022-23 จะกลับมาเริ่มออกสตาร์ท ตั้งแต่ 12 ส.ค. 65 เป็นต้นไป
ความเคลื่อนไหวศึกฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก มาเช็คความพร้อมของแต่ละสโมสรว่ายังใช่โค้ชหน้าเดิม หรือเปลี่ยนโค้ชใหม่ พร้อมวัดความเก๋าโค้ชไทย พบโค้ชต่างชาติว่าใครจะอยู่ได้นานกว่ากันสำหรับการคุมทีมลุยศึกฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาลใหม่ 2022-23 ที่จะเปิดฉากฟาดแข้งกันในเดือนหน้า ในวันที่ 12 ส.ค. 65 เป็นต้นไป
เริ่มที่ทีมแรกทีมแชมป์เก่า บุรีรัมย ยูไนเต็ด
- มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือรายเดิมที่พา “ปราสาทสายฟ้า” กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้สำเร็จด้วยการพาทีมคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์เมื่อฤดูกาลก่อน แต่ที่ยากกว่าคือการจะรักษามาตรฐาน คงผลงานเดิมไม่ให้ตก เพื่อป้องกันแชมป์ทุกรายการตามเป้าหมายของสโมสรได้หรือไม่ น่าสนใจและต้องรอติดตาม รวมถึงจะจับจูนนักเตะต่างชาติรายใหม่ให้เข้ากับแท็คติก และนักเตะไทยได้เร็วแค่ไหน ต้องมารมชมฝีมือ อิชิอิ อีกสักตั้ง
อันดับที่ 2 ฤดูกาลที่แล้ว บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
- มาโกโตะ เทกุระโมริ กุนซือผู้นี้ผู้เข้ามาช่วงเลกที่ 2 ของฤดูกาลก่อนผู้เข้ามาเปลี่ยน “เดอะ แรบบิท” ให้ดีขึ้นผิดหูผิดตา มาดูในฤดูกาลนี้การได้ทำงานตั้งแต่ต้นฤดูกาลมีเวลาคิด และทำงานตั้งแต่ต้นต้องรอดูว่าการได้ทำงานยาวๆของกุนซือญี่ปุ่นรายนี้จะพา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไล่ล่าแชมป์คืนจาก “ปราสาทสายฟ้า” ได้ดีแค่ไหน ในฝีมือของโค้ช ชาวญี่ปุ่นรายนี้
อันดับที่ 3 ฤดูกาลที่แล้ว ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
- ออเรลิโอ วิดมาร์ เฮดโค้ชชาว ออสเตรเลีย ผู้มีประสบการณ์ในการคุมสโมสรในไทยมาแล้วกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การได้รับหน้าที่ทำต่อในฤดูกาลที่จะถึงต้องมาดูว่า “แข้งเทพ” จะโชว์ผลงาน และศักยภาพได้ดีพอไปเบียดแย่งแชมป์ หรือพื้นที่ในการไปเล่นเอเชีย กับทีมอื่นๆได้หรือไม่ ภายใต้การทำทีมของ ออเรลิโอ วิดมาร์ น่าสนใจอย่างมาก
อันดับที่ 4 ฤดูกาลที่แล้ว เมืองทอง ยูไนเต็ด
- มาริโอ ยูรอฟสกี้ โค้ชลูกหม้อของสโมสรที่พกความเป็นไอคอน “กิเลนผยอง” มาเต็มเปื่อมด้วย ด้วยดีเอ็นเอ เมืองทอง ขนานแท้ บวกกับแนวทางที่ชัดเจนในการกล้าใช้เด็ก และตัวเก๋าประสบการณ์ที่ยังคงอยู่ และจะได้มาเพิ่ม เราจะได้เห็นฝีมือ ของมาริโอ มากขึ้นกว่าฤดูกาลก่อนแน่นอนเพราะในฤดูกาลที่จะถึงมีประสบการณ์แล้ว และมีวัตถุดิบพร้อมใช้งานกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา แน่นอน เอาใจช่วยให้ปลุกยักษ์ตัวนี้กลับไปเล่นฟุตบอลเอเชียให้ได้อีกสักที
อันดับที่ 5 ฤดูกาลที่แล้ว ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด
- เอเมอร์สัน เปไรร่า โค้ชชาวบราซิล ผู้พา เชียงราย ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จมาแล้ว มาในฤดูกาลใหม่คงมีเรื่องปวดหัวให้ได้ คิดเยอะเป็นแน่ เพราะการเสียนักเตะตัวหลักกัปตันทีม รวมถึงดาวรุ่งออกไป บวกกับ บรรดานักเตะที่เข้ามาก็ต้องมารอดูว่า โค้ชชาวบราซิล ผู้นี้จะดีพอใช้วัตถุดิบที่มีอย่างจะกัดพา “กว่างโซ้ง” ไปได้ไกลแค่ไหน ในฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง
อันดับที่ 6 ฤดูกาลที่แล้ว หนองบัว พิชญ เอฟซี
- ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ถือเป็นเฮดโค้ชคนไทย ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในฤดูกาลที่แล้ว หลังพาทีมจบถึงอันดับที่ 6 ของตารางและผ่านประสบการณ์การทำงานกับทีมต่างๆมากมายในไทยลีก แต่การเสียนักเตะต่างชาติแกนหลักไปหลานคนก็ต้องมาดูความเก๋าของ “โค้ชวัง” ว่าจะเอาตัวรอดกับฤดูกาลที่สองกับ หนองบัวฯ ไปได้ยังไง เพราะฤดูกาลที่ผ่านมาทำได้ดีเกินคาดจนเป็นที่คาดหวังของแฟนบอลแน่นอน
อันดับที่ 7 ฤดูกาลที่แล้ว ชลบุรี เอฟซี
- สะสม พบประเสริฐ โค้ชผู้มีปรัชญาการทำทีมชัดเจนบวกกับแนวทางของสโมสรที่เน้นเด็กดาวรุ่งในอคาเดมี่ บวกกับคาแรคเตอร์ส่วนตัวที่ชอบให้โอกาสดาวรุ่ง ไม่แปลกใจที่ผลงานของ “ฉลามชล” อาจจะยืนระยะได้ไม่นานแต่ไม่ต้องห่วง ชื่อชั้น โค้ชเตี้ย การันตี เลขตัวเดียว พร้อมด้วยนักเตะดาวรุ่งที่พร้อมจะเติบโตในการคุมทัพแน่นอน และหวังว่าฤดูกาลหน้า ฉลามชล จะว่ายได้ไกลกว่าเดิม ถายใต้การทำทีมของ เตี้ยรินโญ่ ผู้นี้
อันดับที่ 8 ฤดูกาลที่แล้ว การท่าเรือ เอฟซี
- สก็อต คูเปอร์ กุนซือคนใหม่ของทีม โค้ชรายนี้ผ่านการทำงานในประเทศไทยมากับหลายสโมสรยักษ์ใหม่ในไทย ทั้ง บุรีรัมย์ และ เมืองทอง ถือว่าเป็นโค้ชต่างชาติในรอบเกือบ 7 ปี ที่ท่าเรือ มาใช้ และหวังว่าฤดูกาลหน้าเราจะได้เห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และผลงานของทีมจะถูกใจแฟนบอล และประสบความสำเร็จได้ลุ้นถ้วยติดมือสักนิดสักหน่อย เพื่อให้ไม่รู้สึกเสียดายกับเม็ดเงินที่ลงทุนไปในรอบหลายปีที่ผ่านมา
อันดับที่ 9 ฤดูกาลที่แล้ว นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
- เควิน แบล็คเวลล์ โค้ชชาวอังกฤษรายนี้ผู้เข้ามาสานต่องานของ “โค้ชโจ” ที่ลาทีมไป ด้วยการพาทีม “สวาทแคท” เข้าชิงช้างเอฟเอคัพ ก่อนพ่าย “ปราสาทสายฟ้า” ในนัดชิงชนะเลิศ และฤดูกาลที่จะถึง โค้ช รายนี้จะได้สานงานของตัวเองต่อแบบเต็มๆ ด้วยการปรับโครงสร้างทีมโล๊ะตัวเก๋าๆ ออกจากทีมไป ต้องมารอดูว่า “สวาทแคท” ภายใต้การทำทีมของ เควิน แบล็คเวลล์ จะทำผลงานได้ดีต่อเนื่องหรือป่าวต้องมารอติดตาม
อันดับที่ 10 ฤดูกาลที่แล้ว ขอนแก่น ยูไนเต็ด
- คาร์ลอส เอดูอาโด เปไรร่า เฮดโค้ชชาวบราซิล ผู้ผ่านการคุมทีมในประเทศไทยมาอย่างมากมายรวมถึงการขึ้นไปนั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของสโมสรใหญ่ๆ ในเมืองไทยมาแล้ว ด้วยผลงานฤดูกาลที่แล้วที่พา พลพรรค “จงอางผยอง” ไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ทำให้ฤดูกาลนี้เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ไม่ง่ายและน่าจะยากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาก็ต้องมารอดูว่า จะพาทีมอยู่รอดบนลีกสูงสุดต่อไปได้ไหม สำหรับเฮดโค้ชชาวบราซิลผู้นี้
อันดับที่ 11 ฤดูกาลที่แล้ว โปลิศ เทรโร เอฟซี
- รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค อดีตนักเตะทีมชาติไทยผู้ผันตัวเป็นเฮดโค้ช และอยู่กับโปลิศ เทโร มานานพาทีมไต่เต้าตั้งแต่ ไทยลีก 2 ด้วยงบประมาณและตัวผู้เล่นจำกัด โค้ชอ้น ก็ยังสามารถพาทีมโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดได้อย่างสบายๆ แต่มาฤดูกาลนี้ด้วยงบประมาณการทำทีมที่มากขึ้นก็ยิ่งมีความคาดหวังจากแฟนบอล ก็ต้องมารอดูกันว่าฤดูกาลใหม่ โค้ชอ้น จะพาทีมตอบโจทย์ตามที่ทุกคนต้องการได้มากน้อยแค่ไหน
อันดับที่ 12 ฤดูกาลที่แล้ว ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
- ซาบี้ โมโร่ กุนซือคนใหม่ของทีมอีกราย เฮดโค้ชคนใหม่ชาวสเปน ต้องมารอดูว่าเฮดโค้ชคนนี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงราชบุรี ได้ดีแค่ไหน หรือจะเหมือน โค้ช ค่างชาติคนอื่นๆที่เข้ามา และอยู่ได้ไม่นานก็ต้องกระเด็นกระดอนลงจากเกาอี้ น่าสนใจ และน่าติดตามกว่าการพาทีมโชว์ผลงานได้ดีสักอีกว่าเจ้าตัวจะอยู่กับราชบุรี ได้นานแค่ไหน
อันดับที่ 13 ฤดูกาลที่แล้ว พีที ประจวบ เอฟซี
- ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ถือเป็นกุนซือคนใหม่ถอดด้ามที่เข้ามาแทน อิสระ ศรีทะโร ที่คุมทัพ"ต่อพิฆาต" พีที ประจวบ เอฟซี หนีตายในฤดูกาลที่แล้วได้สำเร็จ สำหรับ"โค้ชโจ" ธีระศักดิ์ อดีตนักเตะทีมชาติและผ่านงานกุนซือ "สวาทแคท" นครรสีมา เอฟซี ถือว่ามีประสบการณ์และดีพอที่จะพาทีม "ต่อพิฆาต" อยู่รอดได้อีกฤดูกาล เพราะตามแบบฉบับเจ้าตัวเน้นสร้างนักเตะจากดาวรุ่งเราก็หวังจะได้เห็นอะไรที่แตกต่างออกไปจากการทำงานของ โค้ชโจ ในฤดูกาลที่กำลังจะถึง
น้องใหม่ทีมที่ 1 จากไทยลีก 2 ลำพูน วอริเออร์
- ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือคนใหม่ที่เข้ารัง "โคขาว" หลังขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ เฮดโค้ชชาวไทย เจ้าของดีกรีแชมป์ไทยลีก มาแล้ว หลังล่าสุดไปคุม การท่าเรือ และไม่ประสบความสำเร็จก่อนจะกลับบ้านเก่า และก็กระเด็นตกจากเกาอี้ก่อนจะ มาขึ้นเหนือเป็นโค้ชคนใหม่ของ พลพรรค ราชันโคขาว ก็น่าสนใจว่า “โค้ชโอ่ง” จะทำทีมออกมาในรูปแบบไหน และจะอยู่ในเกาอี้ผู้จัดการทีมได้นานหรือป่าว ต้องมารอติดตามกัน
น้องใหม่ทีมที่ 2 จากไทยลีก 2 สุโขทัย เอฟซี
- เดนนิส อมาโต้ เฮดโค้ชชาวเยอรมนี ผู้มีประสบการณ์คุมทีมในประเทศไทยมามากมายทั้งลีกสูงสุด และลีกรองก็ได้รับความไว้วางใจให้คุมทัพ ในลีกสูงสุดต่อ ต้องมารอชมผลงานว่าจะพาทีม สุโขทัย โลดแล่นและต่อสู้กับทีมในลีกสูงสุดได้ดีแค่ไหน ตามที่เจ้าตัวได้เอยปากบอกไว้หรือป่าว ที่จะไม่ต้องดื้นรนหนีโซนแดง
น้องใหม่ทีมที่ 3 จากไทยลีก 2 ลำปาง เอฟซี
- สุกฤษณ์ โยธี เฮดโค้ชชาวไทย ที่พาลำปาง ตีตั๋วเพย์ออฟใบสุดท้าย มีแนวทางชัดเจนในการทำทีมโดยใช้นักเตะไทยเป็นหลักก็ถือว่าหนักหนาสาหัสพอสมควรทำหรับฤดูกาลใหม่ที่จะตัองดิ้นรนหนีเอาตัวรอดบนลีกสูงสุด ก็มาดูฝีมือ เอาละกันว่าจะพาทีมไปได้ไกลแค่ไหน ผลงานอาจจะไม่ใช่เรื่องวัดทุกอย่างอยู่ที่แบบแผน ว่าจะสู้ทีมในลีกสูงสุดได้ดีแค่ไหน เอาใจช่วย
สรุปภาพรวมกุนซือในศึกฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก ในฤดูกาล 2022-23 ที่กำลังจะถึงนี้ ประกอบไปด้วยโค้ชไทย จำนวน 6 คน และโค้ชต่างชาติถึง 10 คน โดยใช้โค้ชคนเดิมคุมทัพต่อจำนวน 12 ทีม และโค้ช คนใหม่ อีก 4 ทีม
ก็ต้องมารอชมผลงานในสนามของโค้ชทั้งหมด 16 คนว่าใครจะโชว์ผลงานพาทีมบินสูง และใครจะทำผลงานได้ไม่เข้าตาแฟนบอลจนต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งเก้าอี้หัวหน้าเฮดโค้ชเป็นคนแรก
ถือว่าเป็นการขับเขี้ยวกันที่น่าจะสนุกพอสมควรสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากฟาดแข้งในกลางเดือน สิงหาคม 2565 ที่กำลังจะมามาถึงนี้
แสดงความคิดเห็น