วอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก (VNL) ปี 2022 ในรอบสุดท้าย หรือรอบ Final จะเริ่มแข่งขันในระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 ที่กรุงอันคารา ประเทศตุรกี

ซึ่งแต่ละปีของ การแข่งขัน VNL รอบสุดท้าย ล้วนแล้วแต่เป็นช่วงจุดสำคัญ ที่จะวัดผล หลังจากที่ฝ่าฟันแข่งขันในรอบแรก หลายสนาม หลายเกมที่ผ่านมา ว่าใครจะคว้าแชมป์ในบั้นปลายไปครอง รวมถึงในครั้งนี้ มีทีมชาติไทย ได้เข้าร่วมแข่งขันด้วย ซึ่งนับว่าจะทวีความน่าสนใจ ความน่าดูเพิ่มขึ้นไปอีก

และนี่คือ 6 ข้อที่จะบอกว่าคุณไม่ควรพลาดในการรับชมการแข่งขัน VNL รอบ Finals ของปี 2022

1. ครั้งแรกของทีมชาติไทย ในรอบ Finals

แน่นอนว่านี่คือครั้งแรกของทีมสาวไทย ที่เข้ามาแข่งขันในรอบสุดท้ายของศึกเนชันส์ ลีก จากการทำผลงานจบในอันดับที่ 8 ซึ่งเป็นพื้นที่โควตาสุดท้าย ในการตีตั๋วมาที่อันคารา

ทีมชาติไทย ที่เปลี่ยนแปลงผู้เล่นสายเลือดใหม่แทบจะยกแผง ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในการแข่งขัน 3 สนามของรอบแรก ก่อนที่จะคว้าชัยชนะไปได้ 5 เกม จาก 12 เกมที่ลงสนาม โดยคว้าชัยชนะต่อ บัลแกเรีย, เซอร์เบีย, จีน, แคนาดา และ เกาหลี และเก็บคะแนนได้เพิ่มจนสามารถเข้ารอบสุดท้ายได้

ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการของทีม ในการผ่านเข้ารอบสุดท้ายของศึก VNL รวมถึงเป็นผลงานที่ดีที่สุดของทีม นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อรายการ และปรับระบบการแข่งขันตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา

โดยทีมสาวไทย จะเจอกับ ตุรกี เจ้าภาพของรอบนี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

2. ครั้งแรกของตุรกี ในการเป็นเจ้าภาพรอบ Finals

นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจากเวิลด์กรังด์ปรีซ์ (WGP) มาเป็น เนชันส์ ลีก ในปี 2018 รายการนี้จัดแข่งขันมาแล้ว 3 ครั้ง (2020 งดแข่งขันเนื่องจากโควิด-19) ซึ่งใน 2 ปีแรก เมืองหนานจิง ประเทศจีน รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ

ส่วนปี 2021 การกลับมาของ VNL ในยุคโควิด และแข่งขันในรูปแบบ Bubble จัดที่เมืองริมินี ประเทศอิตาลี ตั้งแต่รอบแรก ไปจนถึงรอบ Finals

และปีนี้ 2022 ศึกเนชันส์ ลีก กลับมาแข่งขันในรูปแบบของการเดินทางหลายสนามอีกครั้ง เพียงแต่ลดจำนวนเกมในรอบแรก จากเดิม 15 นัด มาเหลือ 12 นัด รวมถึงยังจะเป็นครั้งแรกที่ VNL ได้เลือกประเทศตุรกี เป็นเจ้าภาพ ในรอบ Finals

โดยแดนไก่งวง เคยเป็นเจ้าภาพของศึก VNL ในรอบแรกมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง ในปี 2018 จำนวน 1 ครั้ง, ปี 2019 อีกทั้งหมด 2 ครั้ง และปี 2022 อีก 1 ครั้ง อีกทั้งทั้ง 4 หนที่ผ่านมา กรุงอันคารา เมืองหลวงของตุรกี ยังได้เป็นเจ้าภาพทั้งหมด

และในปี 2022 สนามแข่งขันในรอบ Finals จะจัดที่ อันคารา สปอร์ต ฮอลล์ ที่มีความจุ 10,400 ที่นั่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ ตุรกี เลือกสนามแห่งนี้เป็นสังเวียนชิงชัย หลังจากที่ในปี 2018 และ 2019 ใช้สนามบาสเคนท์ วอลเลย์บอล ฮอลล์

3. ครั้งแรกที่มีทีมจากเอเชียเข้ารอบ Finals มากถึง 3 ทีม

ปี 2018 และ 2019 จีน รับสิทธิการเป็นประเทศเจ้าภาพในรอบ Finals นั่นทำให้พวกเธอได้รับการเข้าร่วมแข่งขันโดยอัตโนมัติ ทว่า 3 ทีมจากเอเชีย ทั้ง ญี่ปุ่น, เกาหลี และไทย ไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเลยสักครั้ง

ก่อนที่ปี 2021 ศึก VNL ฉบับริมินี จะมีเพียง ญี่ปุ่น ทีมเดียวจากเอเชีย ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้โดด ๆ

ทว่าหนนี้ ทีมจากเอเชีย 3 ทีม ทั้ง ญี่ปุ่น, จีน และ ไทย พร้อมใจกันตีตั๋วผ่านเข้ารอบ Finals กันได้ทั้งหมด และเป็นครั้งที่ 3 ของทัพอาหมวยที่เข้ามารอบนี้ รวมถึงเป็นที่ 2 ของทัพฮิโนโตริ นิปปอน และยังเป็นครั้งแรกของทัพตบสาวไทยอีกด้วย

4. ครั้งแรกของรอบ Finals ที่มี 8 ทีม

ปี 2018 และ 2019 ศึก VNL ยึดระบบการแข่งขันในรอบ Finals แบบเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2016 คือมีทีมเข้าร่วมแข่งขัน 6 ทีม โดยมาจากเจ้าภาพ 1 ทีม และ 5 ทีมที่มีผลงานดีที่สุด หลังจากจบรอบแรก

ก่อนที่ปี 2021 ที่ประเทศอิตาลี เป็นเจ้าภาพ และหลังจบการแข่งขันในรอบแรก ที่แข่งขันไปทีมละ 15 เกม ทีมอันดับ 1-4 ที่มีผลงานดีที่สุด จะผ่านเข้ารอบสุดท้าย หรือในรอบรองชนะเลิศ

และในปีนี้ 2022 ที่ VNL ปรับจำนวนเกมของแต่ละทีมให้เพียงแค่ 12 นัด รวมถึงคัดเอาทีมอันดับ 1-7 ที่มีผลงานดีที่สุดหลังจบรอบแรก รวมกับเจ้าภาพอีก 1 ทีม ผ่านเข้ารอบ Finals

อีกทั้งเกมในรอบ Finals ของปีนี้ ยังเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก ทีมที่ชนะเท่านั้น จะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ส่วนทีมที่แพ้ จะไม่มีเกมในรอบจัดอันดับ ให้ลงแข่งขัน

5. สหรัฐอเมริกา ลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 ติดต่อกัน

3 ครั้งที่ผ่านมาของศึก VNL มีเพียงแค่ สหรัฐอเมริกา ทีมเดียวเท่านั้น ที่สามารถคว้าแชมป์ของรายการนี้มาครองได้

ปี 2018 ลูกทีมของ คาร์ช คิราย เอาชนะ ตุรกี ไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ 3-2 เซต เถลิงบัลลังก์แชมป์สมัยแรก ก่อนที่ปี 2019 พวกเธอจะป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัย ด้วยการเอาชนะ บราซิล 3-2 เซต เป็นสมัย 2 ปีติด

เท่านั้นไม่พอปี 2021 ที่อิตาลี นักตบสาวอเมริกา ยังย้ำแค้นเอาชนะ บราซิล 3-1 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ ป้องกันแชมป์ของ VNL ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเท่ากับว่ารายการนี้ มีเพียงแค่พวกเธอเท่านั้นที่ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์

และในปี 2022 สหรัฐอเมริกา ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบแรก แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นในแต่ละสนาม ด้วยผลงานชนะ 11 แพ้ 1 รวมถึงยังคว้าแชมป์ของรอบแรกไปครอง

แน่นอนว่า ครั้งนี้ อเมริกา จะยังเป็นทีมเต็งแชมป์ของรายการนี้อีกหน

6. การเจอกันของดาวตบท็อปสกอร์ในรอบแรก

แม้ผู้เล่นที่ทำแต้มสูงสุดในรอบแรกของ VNL อย่าง บริตต์ แฮร์บอตส์ จากเบลเยียม ที่ทำไป 306 คะแนน จะไม่ได้เข้ามาร่วมชิงชัย เนื่องจากทีมของเธอ ไม่ผ่านเข้ารอบ Finals อีกทั้งยังร่วงไปเล่นใน ชาเลนเจอร์ คัพ

ทว่าดาวตบที่ทำแต้มได้เป็นกอบเป็นกำที่เหลือ ยังเดินทางร่วมตบในครั้งนี้แทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น โคกะ ซารินะ หัวเสากัปตันทีมชาติญี่ปุ่น ที่ทำไป 243 แต้ม, หลี่ หยิงหยิง ดาวรุ่งตัวเก่งของทีมชาติจีน ที่ทำไป 232 แต้ม

หรือจะเป็น พิมพิชยา ก๊กรัมย์ บีหลังทีมชาติไทย ที่ทำไป 218 แต้ม, ชัชชุอร โมกศรี หัวเสาสาวไทย ที่ทำไป 202 แต้ม, เอบรา คาราคูร์ต ดาวตบมือฉมังของทีมชาติตุรกี เจ้าภาพ ที่ทำไป 194 แต้ม กระทั่ง อนา เบลิชา แนวรุกตัวเก่งจาก เซอร์เบีย ที่ทำไป 183 แต้ม จะได้ลงแข่งขันในรอบนี้เช่นกัน

ติดตามเชียร์ ทีมชาติไทย ในการแข่งขัน VNL รอบ Finals ได้ผ่านทางช่อง ONE หมายเลข 31 รวมถึงรับชมการแข่งขันทุกคู่ได้ทาง www.volleyballworld.tv