ลีกลูกหนังสูงสุดของเมืองไทย อย่าง รีโว่ ไทยลีก หรือ ไทยลีก 1 ได้แชมป์แล้ว โดย “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำแต้มทิ้งห่างคู่แข่งคว้าถ้วยไปครอง แต่ฤดูกาลนี้ยังไม่จบลง
ยังต้องลุ้นกันต่อโดยเฉพาะโควตาไปเล่นใน ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก (ACL) ในฤดูกาลหน้า
การได้ไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ถือเป็นอีกเป้าหมายของทีมในฟุตบอลไทยลีก 1 เพราะนอกจากจะเป็นเกียรติประวัติของสโมสรที่ได้ไปโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลระดับทวีปแล้ว ยังมีความหมายในด้านการตลาดอีกด้วย
ทีมที่ได้เข้าไปเตะใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จะได้เป็นที่รู้จักของวงการฟุตบอลระดับทวีป รวมถึงระดับโลก โดยทาง สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) มีงบประมาณสนับสนุนทีมให้ รวมทั้งเงินรางวัลที่แชมป์จะได้รับจำนวน 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 50 กว่าล้านบาท
ส่วนในรอบ ต่างๆ ทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจะได้รับเงินรางวัลจาก เอเอฟซี เรียกว่ายิ่งเข้ารอบลึกก็ยิ่งรับเงินเยอะ นอกจากนี้การ หาสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนทีมก็ทำได้ง่ายเพราะ สินค้าที่เข้ามาสนับสนุนทีมก็จะโชว์ไปทั่วเอเชียจากการถ่ายทอดเกมแข่งขันนั่นเอง
สำหรับโควตา เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ ไทยลีก ได้สิทธิ์คือ 2+2 นั่นคือ แชมป์ไทยลีก กับ แชมป์เอฟเอ คัพ จะได้เข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ ส่วนอีก 2 ทีมคือ รองแชมป์ไทยลีกและอันดับ 3 ไทยลีก จะได้เล่นในรอบเพลย์ออฟ
ขณะนี้ทีมไทยลีก ที่ได้สิทธิ์ไปเล่นในฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มีแล้ว 2 ทีมนั่นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะแชมป์ไทยลีก และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รองแชมป์ แต่ต้องลุ้นว่าจะได้เล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติเลยหรือว่าต้องเล่นในรอบเพลย์ออฟ เพราะถ้าจะเล่นรอบแบ่งกลุ่มเลยต้องลุ้นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ด้วยนั่นเอง
กรณีที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์เอเอฟ คัพ ได้นอกจากจะช่วยให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้เล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มแล้ว ยังทำให้ทีมอันดับ 3-4 ของฟุตบอลไทยลีก ได้โควตาไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบเพลย์ออฟด้วย
จากสถานการณ์ในฟุตบอลไทยลีก ล่าสุดทีมที่มีลุ้นโควตาไปเล่นฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้ามี 5 ทีม ประกอบด้วย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด และหนองบัว พิญช เอฟซี
#ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
รั้งอันดับ 3 ของตาราง เล่นไป 27 นัด มี 47 แต้ม เหลือเกมอีก 3 นัด ถ้าชนะรวดก็ได้โควตาไป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ทันที โดยมีโอกาสให้พลาดได้ 1 เกม เนื่องจากแต้มของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ห่างจากอันดับ 4 อย่าง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 3 แต้ม และทีมเมืองเหนือสุดแดนสยามก็เหลือเกมเพียง 1 นัด ส่วนทีมอันดับ 5-7 มีแต้มห่างกัน 4 คะแนน เหลือเกม 3 นัดเท่ากัน เรียกว่าโอกาสลุ้นสูงกว่าทุกทีมที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นอันดับ 3 หรืออันดับ 4 กรณี บุรีรัมย์ ได้แชมป์เอฟเอ คัพ โดย 3 นัดสุดท้าย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะพบ เมืองทอง ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด
#ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด
“กว่างโซ้งมหาภัย” แม้ว่าจะรั้งอันดับ 4 แต่โอกาสที่จะไป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ถือว่ายากมาก โดยล่าสุดเล่นไป 29 นัดมี 44 แต้มมีคะแนนให้ล่าเพียง 3 แต้มเท่านั้น แถมยังต้องเจอกับทีมหนีตกชั้นอย่าง สมุทรปราการ ซิตี้ ด้วย นอกจากนี้แต้มที่นำอันดับ 4-7 ยังห่างแค่แต้มเดียว แถมทีมเหล่านั้นยังเหลือเกมในมืออีก 3 นัด โอกาสที่จะโดน ชลบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, หนองบัว พิชญ เอฟซี แซงไปยึดอันดับ 4 ก็มีสูง
#ชลบุรี เอฟซี #เมืองทอง ยูไนเต็ด #หนองบัว พิญช เอฟซี
ชลบุรี เอฟซี
“ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี อันดับ 5, “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด อันดับ 6, “พญาไก่ชน” หนองบัว พิญช เอฟซี อันดับ 7 เตะไปแล้ว 27 นัด มี 43 แต้มเท่ากันและเหลือเกมในลีกอีก 3 นัดเท่ากัน ทำให้โอกาสที่จะลุ้นโควตา เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ยังมีความเป็นไปได้
ถ้าหาก “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สะดุด 2 เกม ทั้งสามทีมมีลุ้นแต่ต้องชนะให้ได้ทุกนัด นอกจากนี้ทั้งสามทีมยังมีลุ้นอันดับ 4 กรณีที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์เอฟเอ คัพ เรียกว่าได้ลุ้นสองเด้งเลยทีเดียว แต่สิ่งที่หนึ่งที่จะต้องจำขึ้นใจสำหรับทั้งสามทีมคือ ห้ามพลาดแม้แพ้ใน 3 เกมที่เหลือนั่นเอง
หนองบัว พิญช เอฟซี
สำหรับโปรแกมนัดที่เหลือของ ชลบุรี เอฟซี ต้องพบกับสองทีมหนีโซนตกชั้นอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี , ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และบีจี ปทุม ยูไนเต็ด รองแชมป์
ส่วนโปรแกรมนัดที่เหลือของ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด มีคิวพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด นัดนี้ถือเป็นเกมสำคัญที่จะเขี่ยทีมที่มีลุ้นตั๋ว เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ให้พ้นทาง อีกสองเกมที่เหลือเจอทีมหนีโซนตกชั้นอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กับ พีที ประจวบ เอฟซี
เมืองทอง ยูไนเต็ด
ด้านทีม หนองบัว พิญช เอฟซี โปรแกรมที่เหลือต้องพบกับทีมหนีโซนตกชั้นเหมือนกับทีมอื่นนั่นคือ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และอีกทีมเป็น การท่าเรือ เอฟซี ที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้วนอกจากทำอันดับที่ดีที่สุดในลีกเท่านั้น
นั่นก็เป็นเส้นทางการลุ้นโควตา ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ของทีมในไทยลีก 1 ซึ่งต้องบอกว่า สู้กันอย่างสนุก อาจจะต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้ายเลยทีมเดียว
-Dodoe-
แสดงความคิดเห็น