สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอในโลกยุคปัจจุบันฉันใด ฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ฉันนั้น 

ก่อนเปิดฤดูกาล 2021/22 หากมีใครมาบอกว่า ตราด เอฟซี จะขึ้นเป็นผู้นำของศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนส์ชิพ หลังผ่านครึ่งทางของเลกแรกคงไม่มีใครเชื่อ แต่ปัจจุบันมันเกิดขึ้นแล้ว 

"ช้างขาวจ้าวเกาะ" คือสโมสรที่ถูกจับตามองว่าจะเดินหน้าไปต่อหรือไม่ในฤดูกาล 2021/22 หลังจากที่เพิ่งร่วงหล่นลงมาจากลีกสูงสุด และมีข่าวลือสะพัดออกมาตลอดว่าบอร์ดบริหารจะตัดสินใจยุบทีม เพราะประสบปัญหาเรื่องของสภาพการเงิน และปัญหาคลับ ไลเซนซิ่ง ที่ถูก อเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ อดีตนักเตะของทีมยื่นเรื่องฟ้องไปยัง ฟีฟ่า จากกรณีติดค้างเงินค่าเหนื่อย 

ไม่น่าเชื่อจากทีมที่กระท่อนกระแท่นในวันนั้น มาตอนนี้หลังผ่านการแข่งขันไป 9 นัด หรือครึ่งทางของเลกแรก พวกเขาจะยังไม่แพ้ใคร ชนะ 8 เสมอ 1 ยิงได้ 20 เสีย 6 ประตู เก็บไปได้ 25 คะแนน นำโด่งเป็นจ่าฝูงมีแต้มทิ้งห่างทีมอันดับ 2 อย่าง แพร่ ยูไนเต็ด ถึง 5 คะแนน

อะไรกันคือปัจจัยที่ทำให้ "ช้างขาวจ้าวเกาะ" บินสูงได้ขนาดนี้ วันนี้เรามาวิเคราะห์กัน

1. การเลือก "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม เข้ามาคุมทีม

กุนซือวัย 67 ปี ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วกับการคุมทีมเลื่อนชั้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการทำทีมมากมาย บทพิสูจน์มีให้เห็นตั้งแต่สมัยคุม "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี ตั้งแต่ระดับโปรลีก จนเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ไทยพรีเมียร์ลีก และยืนหยัดอยู่ได้แบบสบายๆ โดยไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ก่อนที่ล่าสุดปีก่อนจะนำ "พญาไก่ชน" เลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยตำแหน่งแชมป์ไทยลีก 2 ดังนั้นหากให้ยกชื่อกุนซือที่เชี่ยวชาญในการทำทีมฟุตบอลระดับลีกพระรองของเมืองไทย ชื่อของ "สมชาย ชวยบุญชุม" ติดโผ 1 ใน 5 อย่างไม่ต้องสงสัย

2. ได้นักเตะที่รู้ใจโค้ชมาเสริมทีม

ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด ทำให้การเสริมทัพของ "ช้างขาวจ้าวเกาะ" ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เพียงแต่ส่วนใหญ่ที่ "น้าฉ่วย" เลือกนำเข้ามาสู่ทีม คือนักเตะที่เคยร่วมงานกันมาก่อน อาทิ ภานุวัฒน์ ไฟไหล, ทศพร ศรีเรือง, นิรุธ จำเริญศรี, อิสริยะ มารมณ์, กัณฑ์สิทธิ์ เปรมธนากุล รวมถึงพวกตัวต่างชาติอย่าง คาตาโนะ ฮิโรมิชิ, บาโบ้ มาร์ค แลนดรี้, วัลโด้ ซัวเรส ทั้งหมดนี่คือผู้เล่นที่รู้ระบบและวิธีการทำทีมในรูปแบบ "ฉ่วยสไตล์" เป็นอย่างดี จึงไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรกันมาก เรียกได้ว่าเอามาแล้วสามารถส่งลงสนามใช้งานเป็นแกนหลักได้ทันที 

3. เสริมบิ๊กดีล "เปาโล คอนราโด้"

 


หัวหอกชาวบราซิลเนื้อหอมสุดๆ ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายเลกแรกที่ผ่านมา หลังระเบิดฟอร์มซัดไป 25 ประตู คว้าดาวซัลโวของศึกไทยลีก 2 ฤดูกาล 2020/21 พร้อมช่วยให้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุด จนได้รับความสนใจจากทีมดังมากมายในระดับไทยลีก 1 ที่หวังจะดึงตัวไปล่าตาข่าย แต่สุดท้ายกลายเป็น "ช้างขาวจ้าวเกาะ" ที่เป็น "ตาอยู่" กระชากตัว "เปาโล คอนราโด้" มาร่วมทีมได้สำเร็จ และนี่เปรียบเสมือนเป็นจิ๊กซอว์ที่มาเติมเต็มเกมรุกให้กับทีม โดยหลังผ่านมา 9 นัดในเลกแรก ดาวยิงเจ้าของฉายา "อ้ายคอง" ผลิตสกอร์ให้กับทีมไปแล้ว 7 ประตู นำเป็นดาวซัลโวของทีม และเป็นรองดาวซัลโวของลีกในปัจจุบัน

4. ระบบการเล่นที่ยืดหยุ่น

ก่อนหน้านี้คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า บอลสไตล์ "น้าฉ่วย" ไม่มีอะไรมาก ตอนซ้อมก็เน้นให้นักเตะวิ่งเป็นหลัก ตอนแข่งก็ขอให้รับเหนียวไว้ก่อน ส่วนเกมรุกขอเพียงมีโอกาสเปรี้ยงเดียวพอ นี่คือรูปแบบการเล่นที่เราเห็นกันจนชินตา แต่มันก็เป็นสไตล์ที่พาหลายต่อหลายทีมประสบความสำเร็จมาแล้ว อย่างไรก็ตามหนึ่งสิ่งที่ปีนี้ "น้าฉ่วย" มีการเพิ่มเข้ามาคือ บางเกมเล่นหลัง 3 หรือบางเกมเล่นหลัง 4 ยืดหยุ่นกันไปตามคู่แข่งที่ต้องเจอ รวมถึงในระหว่างเกมยังมีการปรับแท็คติกการเล่นอยู่ตลอด ซึ่งมันยิ่งทำให้คู่แข่งจับทางได้ยาก และเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ช่วยพา "ช้างขาวจ้าวเกาะ" ขึ้นมานั่งอยู่หัวตารางในเวลานี้ 

5. ประสบการณ์ของนักเตะ


นักเตะชื่อดังหลายคนเคยเอาชื่อเสียงตัวเองมาทิ้งในไทยลีก 2 เพราะด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง อาทิ เรื่องของกรรมการ, สภาพสนาม, การเดินทางไกลแทบทุกนัด, โปรแกรมการแข่งขันที่ถี่ยิบ, การเข้าบอลที่หนักแบบถึงลูกถึงคน ทำให้แม้คุณจะโด่งดังหรือประสบความสำเร็จมามากมายแค่ไหน อย่าคิดว่าการลดชั้นมาเล่นในลีกพระรองจะเป็นเรื่องง่าย ซึ่งเมื่อกวาดสายตาไปมองนักเตะของ "ช้างขาวจ้าวเกาะ" ชุดนี้ ล้วนอุดมไปด้วยนักเตะที่เคยผ่านเวทีไทยลีก 2 มาแล้วมากมาย ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าแต่ละเกมต้องเล่นแบบไหน และจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

 ดังนั้นประสบการณ์จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะมองข้ามไปไม่ได้