นัดแรกก็ชี้ชะตา : ไทย - ปากีสถาน ใครจะเข้ารอบชิงแชมป์เอเชีย

นี่เพียงแค่นัดแรกเท่านั้นของการแข่งขัน PPTV วอลเลย์บอลชาย JVA ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 21 ปี 2021 ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่มันบ่งชี้ถึงชะตาของทั้งทีมชาติไทย และทีมชาติปากีสถาน ว่าใครจะเข้ารอบ หรือต้องหล่นไปเล่นในรอบจัดอันดับ

ด้วยการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มของชิงแชมป์เอเชีย มีทั้งหมด 4 ทีม และจะคัดเอา 2 ทีมที่ผลงานดีที่สุดเข้ารอบ รวมไปถึงอีกหนึ่งทีมที่อยู่ในสาย บี ร่วมกับทั้ง ไทย และ ปากีสถาน นั่นคือ อิหร่าน แชมป์เก่า ของการแข่งขันเมื่อปี 2019

ด้วยสรรพกำลังของ ราชันแห่งเปอร์เซีย มีความแข็งแกร่งอยู่มาก และผู้เล่นหลายคนก็พึ่งจะผ่านเวทีโอลิมปิกเกมส์ 2020 มาหมาด ๆ รวมไปถึงดีกรีที่เป็นถึง แชมป์เก่า นั่นทำให้พวกเขา จึงกลายเป็นทีมเต็ง 1 ของกลุ่มที่จะเข้ารอบ

ส่วนอีกทีมที่อยู่ร่วมกลุ่ม นั่นคือ ฮ่องกง คงจะเป็นทีมที่ทุกคนต้องคว้าชัยชนะให้ได้เท่านั้น เพื่อเป็นการเก็บคะแนนในการลุ้นเข้ารอบต่อไป

ทำให้ทั้ง ไทย และ ปากีสถาน ที่ถือว่าผลงานพอฟัดพอเหวี่ยงกัน จำเป็นที่จะต้องเอาชนะซึ่งกันและกันให้ได้ เพื่อที่จะลุ้นในการผ่านเข้ารอบที่ 2

อีกทั้งโปรแกรมเจ้ากรรม ยังทำให้ทั้งคู่ ต้องการเจอกันตั้งแต่ไก่โห่ คือเกมนัดแรกของการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2021

มันจึงเป็นเกมที่มีความหมายอย่างมากของทั้งสองทีม ที่จะไม่มีทางเลือกอื่น หากอยากลุ้นเข้ารอบ นั่นคือต้องเอาชนะในเกมนี้ให้ได้เท่านั้น

ทีมชาติไทย สายเลือดใหม่ ภายใต้การนำของกุนซือคนใหม่อย่าง "โค้ชต้อ" พันจ่าอากาศเอก ฐิติรัชต์ กาศอุดม ที่เข้ามารับงานคุมทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก พร้อมด้วย "โค้ชแพท" จ่าสิบเอก ศุภชัย ศรีภูมิ อดีตนักตบทีมชาติไทย ในฐานะผู้ช่วย ซึ่งนับว่าเป็นงานที่ท้าทายของทีมงานทั้งสองคนที่จะนำทีมลงสนามในครั้งนี้

ด้วยขุมกำลังของทีมที่หลาย ๆ คนพึ่งจะติดทีมชาติเป็นครั้งแรก บวกกับผู้เล่นที่มีประสบการณ์มาบ้างในก่อนหน้านี้ ทำให้เป็นงานที่น่าจะยากเลยทีเดียวกับการเจอกับ ปากีสถาน หนนี้

ผู้เล่นตัวเซตของไทยที่เลือกมาในทีมนี้ ประกอบไปด้วย อดิพงษ์ ผลภิญโญ ซึ่งจะรับบทกัปตันทีม รวมถึงน่าจะเป็นผู้เล่นหลัก ซึ่งเจ้าตัวมีประสบการณ์สูงในการเล่นวอลเลย์บอลเมืองไทย ส่วนอีกคนคือ ยศพล วัฒนะ อดีตมือเซตทีมชาติไทยที่เคยติดมาในช่วงปี 2014-15

ขณะที่บอลหลัก นำโดย กิตติธัช นุวัตดี และ อนุตร พรมจันทร์ 2 ผู้เล่นจาก พิษณุโลก ที่เคยติดทีมชาติไทยมาแล้วก่อนหน้านี้ ประสานงานกับ อัศนพรรณ จันทจร ที่ฟอร์มโดดเด่นในไทยแลนด์ลีก และ วุฒิธพร อยู่คง, จิระพัฒน์ บุญคา และบีหลังอย่าง ชัยพิพัฒน์ บัวเกษ ดาวตบมือซ้ายที่ผลงานแจ่มกับ ปริ้นซ์ วีซี

ส่วนบอลเร็วทั้ง 4 คน มีทั้ง เกริกพงษ์ เพ็ญสุข และ สรนันท์ น่วมพารา ดาวตบจาก ไดมอนด์ ฟู้ด และ ธนทัต ทวีรัตน์ ที่ผลงานเยี่ยมกับ ม.เอเชีย เกาะกูดคาบาน่า กับ เอกวีร์ บางศรี และตัวรับอิสระของทีมเป็น มนตรี พ่วงลิบ และ จักรพงศ์ ทองกลาง

เรื่องของฟอร์มการเล่นของทีม คงจะตอบได้ยากว่าเราจะเล่นได้แบบไหน เพราะแทบจะไม่ได้เห็นการซ้อมของทีมเลยก่อนหน้านี้ รวมถึงไม่มีเกมที่ได้ลงสนามอุ่นเครื่องทดลองทีม

และด้วยความที่ตัวผู้เล่นค่อยนข้างใหม่ และประสบการณ์ในการได้ลงเล่นในเวทีนานาชาติยังน้อย ดังนั้นคงจะต้งรอชมฟอร์มในสนามอีกทีว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

ฝั่งคู่แข่งอย่าง ปากีสถาน นำทีมมาโดย ไอมัล ข่าน บีหลังกัปตันทีม ที่คว้าแชมป์ไทยแลนด์ลีก ได้กับ นครราชสีมา ในฤดูกาลล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นตัวความหวังของทีมเขาเลยก็ว่าได้

อีกทั้งปีนี้ ปากีสถาน ยังตั้งเฮดโค้ชดีกรีสูงจากอิหร่าน อย่าง ราห์มัน โมฮัมมาดิราด ที่พาทีมวารามิน จากอิหร่าน คว้าแชมป์สโมสรเอเชีย ได้ในปี 2019 เข้ามารับงานคุมทีมในชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้

นั่นเท่ากับว่า พวกเขาเองก็คาดหวังพอสมควร ที่จะลุ้นเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ของศึกชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้

ดังนั้น เกมระหว่าง ไทย พบ ปากีสถาน จึงเป็นเกมตัดสินกันไปข้าง ว่าใครจะดีพอที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป