เปิดใจ “เทนนิส-พาณิภัค” และบทสรุปผู้จารึกประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก

“พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” นักเทควันโดสาวไทย สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 เป็นหนึ่งในสุดยอดนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลจากโอลิมปิกเกมส์ได้ 2 เหรียญ

 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ "โตเกียว 2020" ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม นักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองแรกได้สำเร็จ จากกีฬาเทควันโดรุ่น 49 ก.ก.หญิง โดย "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะอันดับ 1 ของโลก วัย 23 ปี

 ในรอบแรก "เทนนิส" พาณิภัค ได้บาย มาประเดิมเตะรอบ 16 คนสุดท้าย ชนะ อาบิแชค เซมเบิร์ก จาก อิสราเอล แบบเอาท์สกอร์ 29-5 ในยกที่ 2 จากนั้น รอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะ  ธี คิม ตรวง จากเวียดนาม 20-11 และรอบรองชนะเลิศ พาณิภัค ชนะ ยามาดะ มิยู จากญี่ปุ่น 34-12 คะแนน มาถึงตอนนี้เข้ารอบชิงชนะเลิศและคว้าเหรียญเงินแน่นอนแล้ว

 เกมชิงเหรียญทอง พาณิภัค ดวลกับ เอเดรียน่า เซเรโซ่ อิเกลเซียส สาวน้อยจากสเปนวัยแค่ 17 ปี ยกแรก สาวกระทิงดุเครื่องร้อนเตะทำแต้มนำไปก่อน 4-2 ยกที่ 2 พาณิภัค ตามเอาคืนด้วยการเตะศรีษะ พลิกเกมแซงขึ้นมานำบ้าง 9-6

 ยกสุดท้าย เอเดรียน่าพยายามทำแต้ม และมาแซง 10-9 แต่ใน 5 วินาทีสุดท้าย พาณิภัค เตะ 2 แต้ม พลิกกลับมาชนะไปอย่างตื่นเต้น 11-10 คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ 

 เป็นชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่เหลือเชื่อและสุดดราม่า ความสำเร็จและผลรางวัลทำให้ "เทนนิส" พาณิภัค ยืนรินน้ำตาในพิธีรับเหรียญ ขณะชักธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมบรรเลงเพลงชาติไทย

 "เทนนิส" พาณิภัค กล่าวถึงช่วงวินาทีประวัติศาสตร์ในช่วงท้ายขณะที่คะแนนตามคู่แข่งและกำลังจะหมดเวลาว่า

 "ตอนที่แต้มตามอยู่ รู้อย่างเดียวว่าต้องเตะให้เข้า และต้องทำให้อย่างเต็มที่จนกว่าจะหมดเวลา ตอนนั้นก็เห็นว่าเวลายังเหลือก็พยายามบุกเข้าไปทำคะแนน พอทำคะแนนได้และเหลือเวลาแค่ 3 วินาที ที่เหลือบไปเห็นสกอร์บอร์ดก็พยายามถอยๆ  แล้วก็หมดเวลา"

 จากวินาทีแห่งชัยชนะ พาณิภัค ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญในวงการกีฬาไทย โดยที่ผ่านมา นักกีฬาเทควันโดไทยที่เคยได้เหรียญโอลิมปิกเกมส์ ประกอบด้วย

 “วิว” เยาวภา บุรพลชัย คว้าเหรียญทองแดง รุ่น 49 กก.ในโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เป็นเหรียญแรกของกีฬาเทควันโด

 “สอง”บุตรี เผือดผ่อง คว้าเหรียญเงิน รุ่น 49 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นเหรียญเงินแรก

 "เล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ ได้เหรียญทองแดง รุ่น 49 กก.โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 “เทม” เทวินทร์ หาญปราบ คว้าเหรียญเงิน รุ่น 58 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล และ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ก็ได้เหรียญทองแดง รุ่น 49 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ด้วยเช่นกัน และเป็นครั้งแรกที่กีฬาเทควันโดไทยได้ 2 เหรียญในโอลิมปิกเกมส์ครั้งเดียว

 ทั้งนี้ จากเหรียญทองประวัติศาสตร์ในโอลิมปิกเกมส์ "โตเกียว 2020" ส่งผลให้ พาณิภัค เป็นสุดยอดนักกีฬาไทยคนที่ 3 ที่คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์มากกว่า 1 เหรียญ

 โดยนักกีฬาที่ทำได้ก่อนหน้านี้ คือ “เติ้ล” มนัส บุญจำนงค์ เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท 64 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2004 และเหรียญเงิน รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท 64 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2008

 และ “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว คว้า 2 เหรียญเงิน ยกน้ำหนักหญิง รุ่น 58 กก.โอลิมปิกเกมส์ 2012 และ 2016

 จากเหรียญทองของเทควันโดไทย ทำให้ภาพรวมของชาติเป็นเหรียญทองที่ 10 ในประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทย โดย 9 เหรียญทอง ก่อนหน้านี้ได้แก่

 ปี 1996 แอตแลนต้า สมรักษ์ คำสิงห์ มวยสากลสมัครเล่น รุ่นเฟเธอร์เวท

 ปี 2000 ซิดนีย์ วิจารณ์ พลฤทธิ์ มวยสากลสมัครเล่น รุ่นฟลายเวท 

 ปี 2004 เอเธนส์ อุดมพร พลศักดิ์ ยกน้ำหนักหญิง 53 กก. ,ปวีณา ทองสุก ยกน้ำหนักหญิง 75 กก. , มนัส บุญจำนงค์ มวยสากลชาย รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท

 ปี 2008 ปักกิ่ง ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ยกน้ำหนักหญิง 53 กก., สมจิตร จงจอหอ มวยสากลสมัครเล่น รุ่นฟลายเวท  

 ปี 2016 รีโอ เดอ จาเนโร โสภิตา ธนสาร ยกน้ำหนักหญิง รุ่น 48 กก., สุกัญญา ศรีสุราช ยกน้ำหนักหญิง รุ่น 58 กก.

 และ "โตเกียว 2020" เหรียญที่ 10 จารึกไว้แล้วด้วยชื่อของ “พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ”