เหนื่อยใจแทนนักมวยไทยอาชีพ เพราะไม่รู้เมื่อไหร่เหตุการณ์จะกลับมาปกติเหมือนเดิม ยิ่งนานวันก็ยิ่งทำให้วงการมวยนับถอยหลังเท่านั้น ?

 บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าลำบากทุกสาขาอาชีพจริงๆ โดยเฉพาะวงการมวยไทย ที่ต้องหยุดยาวแบบไม่มีกำหนด และยังไม่มีวี่แววว่าจะเปิดสนามเมื่อไหร่ นักมวยไทยหลายคนบ่นท้อใจเหลือเกิน เพราะยังมองอนาคตไม่ออกว่าจะไปในทิศทางไหน

 มาดูความรู้สึกของ “หนุ่มโบ๊ท ณัฐเดช” แห่งสำนักเพชรยินดีอะคาเดมี่ กันหน่อยว่าเขามีความรู้สึกนึกคิดยังไงบ้าง

 “ความอดทนถ้าเห็นจุดหมายปลายทาง มันก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะฝ่าฟันและผ่านมันไปได้ แต่ความอดทนที่มองไม่เห็นปลายทางหรือจุดจบของปัญหา แล้วเราจะฝ่าฟันและผ่านมันไปได้ยังไงกัน ??

 ถ้าเอาห้วงเวลาการเปิดฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกเป็นเกณฑ์ สำหรับกีฬาทุกประเภทที่ต้องมีคนดูซึ่งจะเริ่มเปิดกันเดือนกันยายน ผมว่าถึงคราวอวสานของมวยไทยแน่นอน

 เพราะนอกจากจะไม่มีรายได้แล้ว เหล่านักมวยคนรากหญ้า จะเอาตัวรอดกันไปได้ยังไง  เงินเยียวยาเท่าไหร่ก็ไม่ดีเท่าการที่ทำให้พวกเราได้ดำเนินชีวิตกันต่อไปแบบปกติสุข

 สิ่งที่น่ากังวลใจที่สุดคือ ปรากฏการณ์ที่กำลังจะทำลายระบบศิลปประจำชาติไทย ให้อ่อนแอหรือโหดร้ายไปกว่านั่นคือถึงจุดอวสานของวงการมวยไทย

 ผมไม่ได้พูดเกินกว่าความเป็นจริง เพราะไม่มีทางที่กลุ่มคนมวยจะยืนหยัดต่อสู้ไปได้ ถ้าต้องหยุดระบบมวยกว่าครึ่งปีเต็มๆ !!

 คนที่อยู่กับมวยทุกวันนี้ อยู่กันได้เพราะใจรัก ไม่มีใครเป็นอภิมหาเศรษฐี ทำธุรกิจระดับมหาชน ที่สามารถเข้ามาโอบอุ้มมวยไทย มันคือวิชาชีพที่ทำกันในกลุ่มคนรากหญ้า ใช้ต้นทุนของร่างกายกับความเจ็บปวดแลกด้วย เงินเพื่อเลี้ยงดูชีวิตตัวเองและครอบครัว 

 ผมกราบฝากเรื่องราวนี้ให้ผู้ที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องได้อ่าน และเล็งเห็นถึงปัญหาและความสำคัญของมวยไทยด้วยเถอะครับ สร้างมาตรการควบคุมดูแลอะไรก็ได้ ผมเชื่อว่าเราพร้อมที่จะร่วมมือและปฏิบัติตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนกล้าเข้าสนามมวย

 เพราะรายได้เพียงอย่างเดียวของคนจัดมวย คือบัตรเข้าชมมวยเพียงเท่านั้น หรือถ้ามีบริษัทยักษ์ใหญ่รายใดเห็นถึงความทุกข์ยากลำบากของคนในวงการมวยไทย และต้องการจะอุปถัมภ์ นักมวยหรือค่ายมวยต่างๆ มันก็จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้เขาได้รอดจากช่วงเวลาอันแสนยากลำบากนี้ไปได้

 ผมคิดถึงกลิ่นนวม เสียงเตะเป้าและนักมวยทุกๆคน แต่เราทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือ ต้องอดทนและมีจิตใจที่แข็งแกร่ง ผมเองก็ท้อนะ แต่ยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด”

 ทั้งหมดคือจากใจคนมวย “หนุ่มโบ๊ท ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์”

 ผู้เขียนได้แต่เพียงบอกว่าทุกคน “สู้ต่อไป ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ”

ย้อนดูประวัติศาสตร์วงการมวย เมื่อเวทีลุมพินีทำการแข่งขันโดยไร้คนดูเข้าสนาม เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ติดตามดูได้ที่นี่ คลิกเลย