สักวัน คงไม่เป็นเพียงฝันแน่นอน จากความฝันของเด็กชาย แต่กลับกลายเป็นสิ่งต้องห้ามของผู้เป็นแม่

วัศพล สงเสด ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูใครหลายๆคน และหลายๆคนอาจจะไม่รู้จักว่าเขาคือใคร แต่หากแม้นได้ยลผลงานของการโชว์สกิลการเตะฟุตซอลของเขาแล้วละก็ แน่นอนหลายคนคงจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรได้รับโอกาสจากสโมสรในไทยแลนด์ลีกเพื่อเป็นเวทีสานฝันของเขาให้เป็นจริง

จุดเริ่มต้นของการเล่นฟุตซอล 
เริ่มชอบฟุตบอลตั้งแต่จำความได้ โดยพ่อของผมเป็นโค้ชฟุตบอลในสมัยนั้น พ่อก็จะซื้อลูกฟุตบอลมาให้เป็นของขวัญ และลูกฟุตบอลเป็นของเล่นที่ผมชอบเล่นมาก สามารถอยู่กับมันได้ทั้งวัน ในตอนนั้นผมก็เตะฟุตบอลเล่นในบ้าน เตะอัดผนังบ้าง บางทีก็เผลอไปโดนตู้กระจกที่บ้านแตกไปหลายตู้ พอโตขึ้นช่วงประถมพ่อก็พยายามให้ไปเจอสนามจริงๆ ไปซ้อมกับนักฟุตบอลที่พ่อคุมทีม แต่สุดท้ายทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พ่อยังมองเห็นจุดเด่นของผมก็คือ สปีดต้น ไปกับบอลได้ดี เสียบอลยาก จึงแนะนำให้ผม หันมาเล่นฟุตซอลอย่างเต็มตัวเพราะมันคงเหมาะกว่า

ซึ่งเริ่มเล่นฟุตซอลจริงๆจังๆคือช่วง ม.1 หลังเลิกเรียน ก็จะเตะฟุตซอลกับเพื่อนๆจนดึกถึงกลับบ้าน ได้เจอกลุ่มเพื่อนที่ชอบฟุตซอลเหมือนกัน แล้ว ม.2 โค้ชฟุตซอลทีมโรงเรียน อาจารย์ สุดเขต เชื้อสาวะถี ได้เห็นฝีเท้า จึงรีบจองตัวเพื่อที่จะมาร่วมฝึกกับทีมโดยเร็ว จนได้ติดทีมจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่ ม.2 แล้วได้ร่วมเข้าแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติมาตลอด ต่อมา พอขึ้นมัธยมปลายก็ได้ร่วมเข้าแข่งขันกีฬาแห่งชาติเป็นครั้งแรก และจำได้ว่าทำได้5ประตู ซึ่งเป็นรายการใหญ่ครั้งแรกที่ประทับใจมาก

ฝันไม่ยอมแพ้ ถึงแม่ห้าม
และมีช่วงชีวิตที่ครอบครัวนั้นเปิดใจด้วยความเป็นห่วง แม่พูดว่า " ทำไมเกรดถึงตก เพราะกีฬารึป่าว เลิกเล่นดีไหม" ผมร้องไห้ออกมาทันทีเพราะผมไม่อยากเลิกทำในสิ่งที่ผมรัก ผมก็ขอแม่ยังไงผมก็จะเล่น ผมจะไม่ยอมเลิกเล่นตามที่แม่บอก ผมจะทำให้แม่เห็นว่าผมมีความสามารถที่จะทำทั้งสองพร้อมกันได้ดี และผมก็ทำมันได้จริงๆ หลังจบการศึกษามัธยมปลายผมได้เซ็นสัญญากับทีมสโมสรฟุตซอล ม.ภาค ขอนแก่น โดยพี่แอน สืบพงศ์ วงศ์สุวรรณ หัวหน้าโค้ช ซึ่งเป็นผู้ให้โอกาสและเห็นความสามารถ ทั้งผมและครอบครัวประทับใจมากๆ ทำให้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ให้แม่ได้เห็น และสนับสนุนให้เล่นฟุตซอลต่อไป

ไขว่คว้าหาโอกาส
จากนั้นก็เขามาศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งช่วงมหาลัยเป็นช่วงที่มีโอกาสได้โชว์ฟอร์มได้อย่างเต็มที่เพราะมีรายการให้แข่งขันอยู่ตลอด มีเดินสายทุกๆอาทิตย์ รวมถึงกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ที่เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี ในช่วงปี 1-2 เราไม่สามารถช่วยทีมให้ไปรอบสุดท้ายได้ แต่เราก็เคยไม่ยอมแพ้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขันเดินสาย ฟิตร่างกายอยู่ตลอดปี และทำให้เราประสบผลสำเร็จใน ปีที่ 3-4 ทีมเราสร้างประวัติศาสตร์ให้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สามารถไปรอบมหกรรมได้เป็นครั้งแรกของมหาลัย โดยครั้งแรกที่ได้ไปนั้น พาทีมจบที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งพลาดโอกาสได้เหรียญ แต่ก็เกินคาดมากสำหรับพวกเรา

ฝันอันสูงสุดของการเป็นกีฬาฟุตซอล
ความฝันของนักกีฬาทุกคนมันคงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ทุกคนที่เป็นนักกีฬาก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว นั่นก็คือการติดทีมชาติไทย มีธงไตรงปักที่อกซ้ายเพื่อเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของครอบครัวและตัวเอง ซึ่งมันเป็นความฝันสูงสุดของการเป็นนักกีฬาฟุตซอลในชีวิตเขาผม

คติพจน์ประจำใจ
ความฝันต้องไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากเห็นตอนนอนหลับ แต่ความฝันต้องเป็นสิ่งที่ทำให้คุณไม่อยากนอนหลับเพื่อทำมันต่างหาก