ณ ช่วงหนึ่งของเกมการแข่งขัน สกอร์บอร์ดในสนาม แอนฟิลด์ ปรากฏให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล นั้นนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปไกลถึง 3-0
เกมจบลงด้วยสกอร์ 3-1 โดยมีช่วงท้ายเกมที่ลุ้นกันตัวโก่งนิดหน่อย เช่นเดียวกับประเด็นเรื่อง VAR ทั้งจังหวะล้ำหน้าและการแฮนบอลในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล คือทีมที่คว้า 3 คะแนน และฉีกห่าง “เรือใบสีฟ้า” ไปเป็น 9 แต้ม
รายละเอียดมากมาย มีส่วนสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับเกม ซึ่งวันนี้ เราจะไปดู 4 กุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้ “หงส์แดง” เป็นฝ่ายได้รับการชูมือเหนือ แมนฯ ซิตี้ ในครั้งนี้กันครับ
- ความมั่นใจข่มมิดด้าม
มันฏิเสธไม่ได้เลยว่า ลิเวอร์พูล อยู่ในสถานะที่มีความมั่นใจก่อนเกมสูงกว่า แมนฯ ซิตี้ จริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องฟอร์มการเล่นรวมๆ ตั้งแต่เปิดซีซั่น รวมไปถึงท่าทีแปลกๆ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่มีการออกมาพูดไซโค ซาดิโอ มาเน่ ว่าเป็นจอมพุ่งล้ม ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขาหวั่นเกรงในศักยภาพของ “หงส์แดง” ซึ่งพอลงสนามไปมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะ ลิเวอร์พูล คือฝั่งที่เคลื่อนที่รับส่งต่อบอลกันด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบบพื้นฐาน หรือการจ่ายลูกยากๆ ซึ่งพวกเขาทำได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งหมด ต่างกับผู้มาเยือน ที่แลดูกดดันตัวเองมากไป ขึ้นเกมแบบไอเดียตีบตันในหลายๆ ครั้ง ไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก
- กลยุทธการเล่นเกมรับทั้งทีม
ตามปกติแล้ว ลิเวอร์พูล คือทีมที่เล่นเกมรับกันได้ทั้ง 11 คน อยู่แล้ว แต่มันก็ดนมาเข้าฝักสุดๆ ในเกมนี้ ซึ่งนั่นก็ช่วยแบ่งเบาภาระของแผงแบ็คโฟร์ได้เพียบ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว แนวรับของ “หงส์แดง” ก็ยังมีจุดอ่อนเล็กน้อยอยู่ที่ เดยัน ลอฟเรน และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แต่มันก็เป็นผู้เล่นคนอื่นที่ช่วยกันซ้อนเอาตัวรอดไปได้ทุกชอต โดยที่ต้องชมเป็นพิเศษก็คือ โม ซาล่าห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ที่ถอยลงมาเป็นตัวชนก่อนถึงฟูลแบ็คหลายๆ ครั้ง ขณะที่พอถึงเวลาขึ้นเกมรุก ก็ทำได้เหมือนเดิมไม่มีขาดหาย ตรงกันข้ามกับ ซิตี้ ที่ผู้เล่นในแนวรุกหลายๆ คน ยังช่วยเกมรับได้ไม่มากเท่าที่ควร ซึ่งเราก็ต้องบอกต่อไปด้วยว่าลำพังแบ็คโฟร์ของ “เรือใบ” ชุดนี้ ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรอยู่แล้ว
- แมนฯ ซิตี้ ตัวขาดเพียบ
มันเห็นๆ กันอยู่ในช่วงก่อนเกมว่า ลิเวอร์พูล คือฝั่งที่มีขุมกำลังพร้อมสำหรับการลงสนามมากกว่า ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ นั้นมีตัวเจ็บและต้องเช็คฟิตเป็นกระบุง ไม่ว่าจะเป็น เอแดร์ซอน , ดาบิด ซิลบา , โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ , เบนฌาแมง เมนดี้ , โรดรี้ , อายเมริค ลาป๊อร์ก ซึ่งก็มีเพียงแค่ โรดรี้ เพียงคนเดียว ที่คัมแบ็คกลับมาลงสนามได้ นั่นทำให้ 11 ตัวจริงของ ซิตี้ นั้นขาดๆ เกินๆ ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันไป
- ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
นี่คงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าสิงห์เชิ้ตดำที่ชื่อ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ (พูล) ที่ส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ “หงส์แดง” อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบ และเก็บชัยชนะได้ง่ายกว่าที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะในจังหวะที่ เทรนท์ แฮนด์บอลแต่ไม่เป่า จนกลายเป็นที่มาของการสวนกลับของ ลิเวอร์พูล ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เช่นเดียวกับแฮนบอลในครึ่งหลัง ที่ก็ชัดเจนมากๆ เช่นกัน แต่เจ้าตัวกลับใจแข็งไม่ให้เลยสักลูก ซึ่งก็ต้องบอกว่าลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นโชคดีมากๆ เพราะถ้าหากมันเป็น ซิตี้ ที่ขึ้นนำไปก่อน หรือว่ายิงคืนมาได้เพิ่มอีกสัก 1 ลูกในครึ่งหลัง บางทีผลการแข่งขั
แสดงความคิดเห็น