เด็กเชียงใหม่ ที่มีพ่อเป็นคนอุทัยธานีและแม่เป็นคนกรุงเทพมหานคร แต่ได้ไปเรียนที่เชียงใหม่ แหล่งอุดมศึกษาเบอร์ 1ของภาคเหนือ พบรักกันและได้สร้างครอบครัวตั้ง หลักปรักฐานอยู่ที่เชียงใหม่ จนทำให้เกิดนักเตะที่พรสวรรค์สูงอย่าง "ยิม" วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ขึ้นมา

 

เส้นทางของ "ยิม" เกิดขึ้นตามสารบบของลูกหนังตั้งแต่ป.2 ที่หอบกระเป๋า โดดขี่หลังรุ่นพี่จากเมืองเหนือมาเรียนที่ รร.เพ็ญสมิทธ์ ในกรุงเทพมหานคร ระยะทางเกือบ 800 กิโลเมตรที่จากบ้านมา ไม่ได้ทำให้เกิดอาการโฮมซิคแม้แต่น้อย มีแต่จะทำให้เจ้าตัว กล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
 
หลังจากนั้นอีก 3 ปี ได้ขยับมาเข้าสู่ชายคาอคาเดมี่ของ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เป็นรุ่นแรก โดยมีโค้ชมือ 1 ของเมืองไทย อย่าง "เฮงซัง" วิทยา เลาหกุล เป็นผู้ฝึกศาสตร์ลูกหนังให้ พร้อมกับเรียนที่ รร.เทศบา.บ้านศรีมหาราชา อีกด้วย
 
 
 อยู่ที่นั้น 3 ปี ชลบุรี อคาเดมี่ ได้โยกย้ายมาอยู่ที่ อ.บ้านบึง และเจ้าตัวได้ย้ายมาเรียนมัธยมศึกษาที่ รร.ท่าข้ามวิทยาคม แต่กุนซือผู้บ้าคลั่งในฟุตบอล "อาจารณ์เฮง" ของเด็กๆอคาเดมี่ทุกคน ยังคงสอนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นี่คืออีกจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ฟุตบอลอาชีพตั้งแต่เด็ก
 
  "วันนั้นผมได้ลงทีมอุ่นเครื่องกับทีมวิลเซิล โคเบ พอจบเกม อาจารณ์เฮง มาบอกว่า โค้ชทีมนั้นมาคุยกะเค้า บอกว่าจะเอาผมไปอยู่ที่ญี่ปุ่น บอกได้เลยว่า ผมตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะเล่นดีขนาดนั้น ซึ่งถ้ามองๆแล้วเพื่อนๆทุกคนก็เล่นดีพอๆกัน"
 
  จากเชียงใหม่ มาสู่เมืองกรุง กระทั้งได้มาอยู่ที่ชลบุรี คงเซอร์ไพรซ์ครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเด็กอายุ 15 ปี นั่งเครื่องไปฝึกฟุตบอลกับประเทศเบอร์ 1 ในเอเชีย อย่างประเทศญี่ปุ่น
 
 
  "ที่ญี่ปุ่นนั้นสอนให้ผมรู้อะไรเกี่ยวกับฟุตบอลมากๆ ทำให้รู้ความเป็นมืออาชีพของนักฟุตบอลเลย ทั้งในเรื่องการซ้อมที่จริงจัง การกิน การพักผ่อนต่างๆ ซึ่งเด็กไทยหลายๆคนมองข้ามกันไปมาก บอกตรงๆเลยว่า เป็นช่วงระยะเวลา 3 เดือน ที่ผมมีความสุขมากๆและคุ้มค่าในชีวิตนักฟุตบอลเลย"
 
 หลังจากกลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทย เป็นเด็กฝึกอคาเดมี่ของชลบุรี เอฟซี พร้อมกับมี "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ติวเข้มอยู่ทุกวัน ทำให้ฝีเท้าเจ้าตัวนั้นพัฒนาขึ้นมามาก "ยิม" ได้รับโอกาศอีกครั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ไปร่วมเข้ากิจกรรมฝึกฟุตบอล กับ ไนกี้ ในโครงการ ออล เอเชีย ฟุตบอล แคมป์ ที่ประเทศออสเตรเลีย
 
โดยมีโค้ชจากสโมสรชั้นนำของโลกถึง 4 สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคเรียนเที่ยน อินเตอร์ มิลาน และ บาร์เซโลน่า มาเป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งถ้ามองจริงๆแล้ว ยิม เป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดในแคมป์นี้เลย คนอื่นอายุ 17 ปีกัน แต่เจ้าตัวอายุ 16 ปีเท่านั้นเอง
 
 
  "ต้องขอบคุณไนกี้มากครับ ที่เลือกผมไป เป็นโครงการที่ดี ได้เรียนรู้แบบฝึกของสโมสรต่างๆและนำมาใช้กับตัวเองได้เยอะเลย เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก และทำให้ผมรู้ว่าตัวเองยังมีอะไรที่ต้องปรับอีกเยอะ"
 
 ในเมื่อมีพรสวรรค์เต็มเปี่ยม ไนกี้ ผลิตภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของ ชลบุรี เอฟซี กระโดดเซ็นสัญญากับเจ้าตัวเป็นเวลา 4 ปี ตอบแทนความเก่งกาจของเจ้าตัวเลยทีเดียว
 
 
  "ในช่วงกลางปีนี้ผมได้รับโอกาศให้ไปฝึกอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ไป และระยะเวลาที่ไปอยู่ครั้งนี้มากกว่าครั้งแรกที่ไปอีก ผมบอกได้เลยว่าผมต้องทำมันให้เต็มที่เพื่ออนาคตของผมเอง ที่ฝันว่าอยากจะเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีมชลบุรี เอฟซี หรือเล่นฟุตบอลอาชีพในลีกของประเทศญี่ปุ่น และขอสักครั้งกับการได้ติดทีมชาติไทยเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล"
 
อนาคตยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง จะเก่งเหมือน รุ่นพี่ๆอย่าง พิภพ อ่อนโม้,เทิดศักดิ์ ใจมั่น,อดุล หละโสะ รวมถึงคนอื่นๆหรือไม่ แต่ ณ วันนี้  "ยิม" วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ คือนักเตะวัย 16 ปี จากแคมป์ ฉลามชล จูเนียร์ ที่จะเก็บสตั๊ดไปพิสูจน์ตัวเองที่ประเทศญี่ปุ่น และกลับมาสร้างสรรค์เกมในสนามให้กับ ชลบุรี เอฟซี ในอนาคต โดยด่านแรกที่จะทดสอบความสามารถของเจ้าตัวคือการค้าแข้งอาชีพในขวบปีแรกกับ สโมสร พานทอง เอฟซี
 
 
เครดิต เก๋า เก๋า จากนิตยสาร "ฉลามชลแมตซ์เดย์" ฉบับวันที่ 6 เม.ษ.56